เยี่ยมชมโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง
23 พฤศจิกายน 2565 Ms. Orna Sagiv เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมด้วย Ms. Eynat Shlein อธิบดีและผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และ Mr. Ariel Seidman รองหัวหน้าผู้แทนทางการทูต และคณะตัวแทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เยี่ยมชมโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง โดยมี นายปรีชา พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
Ms. Orna Sagiv เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมด้วย Ms. Eynat Shlein อธิบดีและผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และ Mr. Ariel Seidman รองหัวหน้าผู้แทนทางการทูต และคณะตัวแทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เยี่ยมชมโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง โดยมี นายปรีชา พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายยุทธนา แก้วน้อย สหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี นายธีรภพ บัวจีน ผู้อำนวยการศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ ณ โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการพัฒนาดิน ระบบชลประทาน การทำฝนหลวง การส่งเสริมด้านการเกษตรและงานด้านสหกรณ์ ซึ่งจัดแสดงอยู่ภายในอาคารคุ้มเกล้า และเยี่ยมชมแปลงทับทิม และโรงเรือนสำหรับปลูกพืชพร้อมระบบน้ำ (Greenhouse) ที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอิสาราเอล จากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมอาคารแสดงจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักสานป่านศรนารายณ์ของสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ซึ่งสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายมีทั้งหมวก กระเป๋า รองเท้า ที่รองแก้ว เข็มขัด
ทั้งนี้ จากความร่วมมือโครงการไทย - อิสราเอล เพื่อพัฒนาชนบทหุบกะพง ที่ได้ดำเนินโครงการโดยเป็นความร่วมมือในการพัฒนาด้านการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ และเทคโนโลยีการเกษตรในพื้นที่แห้งแล้ง สามารถขยายผล นำไปสู่การพัฒนาด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้เป็นผลสำเร็จแก่เกษตรกรสมาชิกในพื้นที่โครงการฯ อีกทั้ง ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย - อิสราเอล ประเทศอิสราเอลยังคงสนับสนุนการดำเนินงานโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ การใช้น้ำอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยได้มอบต้นทับทิม จำนวน 120 ต้น ปลูกในพื้นที่ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง ซึ่งต้นทับทิมที่ได้รับเป็นพันธุ์ Wonderful 1,2,3 มีการขยายต้นพันธุ์เดิมมาปลูกเพิ่ม เป็นจำนวน 216 ต้น หลังจากการปลูกให้ผลผลิตในช่วง 3-4 ปีแรก ประมาณ 100 – 200 ผล/ต้น
นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนเทคโนโลยีการเกษตรการปลูกพืชในโรงเรือน Greenhouse จากศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (MASHAV) ที่ได้สนับสนุนโรงเรือน (Greenhouse) ติดตั้งระบบชลประทานน้ำหยดของอิสราเอลและระบบกระจายน้ำ ที่ช่วยให้ทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดและยั่งยืน และได้มอบโรงเรือน (Greenhouse) หลังที่ 2 ให้ศูนย์สาธิตฯ โดยได้ดำเนินการจัดสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งการปลูกพืชในโรงเรือน (Greenhouse) มีการทดลองปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น แตงโม ข้าวโพด ผักสลัด แรดิช เมลอน ปัจจุบันได้ทำการทดลองปลูกแคนตาลูปสายพันธ์เหลืองจักรพรรดิ ใน 1 ปี สามารถปลูกได้ 3 – 4 รุ่น มีผลผลิต 250 – 300 ผล น้ำหนักผลละ 1.5 – 2.8 กิโลกรัม ความหวาน 13 – 15 องศาบริกซ์
โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพงดำเนินงานมาเป็นระยะเวลากว่า 58 ปี เป็นโครงการตามพระราชประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงจัดตั้งโครงการฯ ขึ้นในปี พ.ศ.2507 (ค.ศ.1964) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินเนื้อที่ 12,079-1-82 ไร่ ในการดำเนินงานโครงการฯ เพื่อบริหารจัดการพัฒนาที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง และทดลองด้านการเกษตรแผนใหม่บนพื้นที่แห้งแล้ง โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (รัชกาลที่ 10) ยังทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด งานโครงการฯ ให้หุบกะพง เป็น “หมู่บ้านสหกรณ์ตัวอย่าง” ทรงพระเมตตาสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนา เกษตรกร/ผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ ทั้งปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พสกนิกรในโครงการฯ มีความเป็นอยู่ที่ดี มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงอีกด้วย