เปิดโครงการประชุม “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสู่ความเข้มแข็ง”
3 พฤศจิกายน 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุม “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสู่ความเข้มแข็ง” และมอบนโยบายการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ พ.ศ.2566
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุม “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสู่ความเข้มแข็ง” และมอบนโยบายการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้แก่ข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร” โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายปรีชา พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วม ณ สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การมอบนโยบายการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 แก่กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้านการเกษตรและขับเคลื่อนงานสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการเกษตร มีเป้าหมายในการพัฒนาให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในรูปแบบของการสหกรณ์ สร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรของชุมชนโดยส่งเสริมให้นำแนวทางการตลาดนำการผลิต การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และการนำเทคโนโลยีการเกษตรมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างระบบการเงินการบัญชีที่มีเกณฑ์การตรวจสอบบัญชีตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนำไปใช้ปฏิบัติ มีการกำหนดเกณฑ์การควบคุมภายในที่ดี การควบคุมและดูแลการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายการดำเนินงานแก่กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ แบ่งเป็น นโยบายด้านการส่งเสริม พัฒนาและการกำกับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ประกอบด้วย 1) ผลักดันให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจกับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมากขึ้น 2) เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 3) การบริหารองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล และ 4) การแก้ไขข้อบกพร่องของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร นโยบายด้านการตรวจสอบทางการเงินและการบัญชี ประกอบด้วย การพัฒนาระบบการตรวจสอบบัญชี ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและตรวจสอบคุณภาพการสอบบัญชีสหกรณ์ การพัฒนาความสามารถด้านการเงินการบัญชี และการ
ควบคุมภายในแก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเกษตรกร และมุ่งพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการบัญชีเพื่อให้บริการแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
"การทำงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ขอให้บุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ประสานความร่วมมือและช่วยกันทำงานเพื่อยกระดับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีมาตรฐานสูงขึ้น และสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร และขอให้เน้นย้ำเรื่องการดำเนินการของสหกรณ์ให้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามแนวทางของสหกรณ์ที่มีสมาชิกเป็นศูนย์กลาง ซึ่งท่านทั้งหลายเปรียบเสมือนทัพหน้า ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับสหกรณ์ เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ จึงเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนอยู่ดี กินดีมีสุข อย่างมั่นคงและยั่งยืน" ที่ปรึกษา รมว.กษ. กล่าว
สำหรับโครงการประชุม “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร สู่ความเข้มแข็ง” ผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย ผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ข้าราชการส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ของทั้ง 2 หน่วยงาน จำนวน 1,720 คน และประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting โดยถ่ายทอดสัญญาณไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน ได้รับทราบนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรระหว่างหน่วยงาน นำความรู้ที่ได้รับไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงสามารถบูรณาการการปฏิบัติงานในการส่งเสริม พัฒนา และกำกับดูแลสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป