การประชุมติดตามผลการดำเนินโครงการกาแฟอาราบิกาฯ ซึ่งเป็นโครงการด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น (Local to Local Linkage) ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA)
21 ตุลาคม 2565 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินโครงการกาแฟอาราบิกาฯ ซึ่งเป็นโครงการด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น (Local to Local Linkage) ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA)
นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินโครงการกาแฟอาราบิกาฯ ซึ่งเป็นโครงการด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น (Local to Local Linkage) ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ร่วมกับ ผู้แทนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) Mr.Takafumi Hanazawa, Representive of JICA ประจำประเทศไทย Mr.Shoma Nitta เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน JICA ประเทศญี่ปุ่น และคุณสุภาภรณ์ ลาเหงา เจ้าหน้าที่สำนักงาน JICA ประเทศไทย นางสาวเจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิเทศสัมพันธ์ กองแผนงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายศรีนวล ไทยตัน ประธานกรรมการ นายประหยัด เสนน้อย ผู้จัดการสหกรณ์ คณะกรรมการ และสมาชิกสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ในการนี้ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ให้คำแนะนำด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการผลิตกาแฟพรีเมี่ยม รวมถึงการสร้างความแตกต่าง ซึ่งการแปรรูปกาแฟของสหกรณ์ให้มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ เป็นสิ่งที่ควรทำควบคู่กับการพัฒนาตลาด นอกจากนี้การจัดทำคู่มือและแนวทางปฏิบัติโดยผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น จะช่วยให้สหกรณ์สามารถนำไปเป็นแนวทางในผลิตการผลิตกาแฟพรีเมี่ยม และต่อยอดไปถึงการพัฒนากาแฟคุณภาพของสมาชิกสหกรณ์ นอกจากนี้ ภายใต้ข้อจำกัดด้านอายุของเกษตรกรที่มีอายุสูงขึ้น จำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่มาทำงานร่วมกัน โดยการขยายองค์ความรู้ นำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาช่วยพัฒนาสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ ให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของตลาด สร้างรายได้อย่างมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการความร่วมมือกับ JICA เพื่อพัฒนากาแฟคุณภาพ ตั้งแต่ปี 2561 และได้สิ้นสุดโครงการฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกเข้าร่วมโครงการ 37 ราย ซึ่งในปีการผลิต 2564/65 สหกรณ์รวบรวมผลผลิตกาแฟกะลา ปริมาณ 10.41 ตัน มูลค่า 1,457,400 บาท และรวบรวมกาแฟเชอร์รี่เพื่อแปรรูปเป็นกาแฟพิเศษ (Specialty Ciffee) จำนวน 4.59 ตัน มูลค่า 117,015 บาท โดยกาแฟพิเศษของสหกรณ์ได้รับรางวัลที่ 3 ในการประกวดกาแฟ Thai coffee excellence 2022 และโครงการความร่วมมือกาแฟอาราบิก้าฯ ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2565 ประเภทสัมฤทธิ์ผลประชาชนมีส่วนร่วม (Effective Change)
สำหรับแผนการดำเนินงานธุรกิจรวบรวมกาแฟ ในปี 2565/2566 นั้น สหกรณ์มีแผนการรวบรวมกาแฟกะลา จำนวน 25 ตัน กาแฟเชอร์รี่ จำนวน 20 ตัน เพื่อผลิตเป็นกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee – Single Origin) โดยสหกรณ์ได้กำหนดแผนในการให้คำแนะนำด้านการผลิตแก่สมาชิก (Farm Guidance) การตรวจสอบคุณภาพกาแฟโดยการตรวจสอบทางกายภาพและการทดสอบรสชาติกาแฟ (Cupping) ซึ่งจะมีการให้ราคาบวกเพิ่มแก่สมาชิกสหกรณ์ที่มีผลผลิตผ่านเกณฑ์ที่สหกรณ์กำหนด นอกจากนี้สหกรณ์ยังมีแผนในการพัฒนาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้แทน JICA ได้ร่วมลงพื้นที่กับนางสาวเจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิเทศสัมพันธ์ กองแผนงาน เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน การส่งเสริมการปลูกกาแฟคุณภาพ ณ แปลงของนายอานนท์ พวงเสน ทายาทสมาชิกสหกรณ์ และตรวจเยี่ยมแปลงกาแฟของ นายบุญเทียม ขันเป็ง สมาชิกสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด บ้านแม่ตอนหลวง ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกษตรกรทั้ง 2 ราย ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนากาแฟคุณภาพของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้แทน JICA ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับแผนในการพัฒนากลุ่มผู้ผลิตคุณภาพโดยเกษตรกรรุ่นใหม่ และการเชื่อมโยงกิจกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด กับกิจกรรมการพัฒนากาแฟคุณภาพของสหกรณ์ในอนาคตอีกด้วย