นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรวมพลคนลำไยเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ปี 2568
21 กรกฎาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรวมพลคนลำไยเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ปี 2568 และพบปะพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยจาก 8 จังหวัด ทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง และจังหวัดตาก จำนวนกว่า 6,000 คน โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายวงศ์ชัย ไชยโย ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร นางสาวอภิวันท์ ธะนะสิทธิศักดิ์ สหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
นายอรรถกร กล่าวว่า “การจัดโครงการรวมพลคนลำไยในวันนี้ เป็นการรวมพลังพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้ง 8 จังหวัด ทางภาคเหนือ เพื่อร่วมกันหาทางออกและก้าวผ่านสถานการณ์ลำไยที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์ลำไยอย่างใกล้ชิด พบว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม มีปริมาณลำไยเพิ่มมากขึ้นประมาณ 120,000 – 140,000 ตัน จึงได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเร่งระบายลำไยออกจากระบบ ขณะเดียวกันต้องเตรียมพร้อมกระจายลำไยที่กำลังออกผลผลิตสู่ตลาด ผ่าน “โครงการสินเชื่อเพื่อซื้อลำไยเพื่อแปรรูปอบแห้งปลอดดอกเบี้ย” โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมถึง “โครงการกระจายผลผลิตลำไยสด” โดยประสานงานร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร กระทรวงศึกษาธิการ ทัณฑสถาน และหน่วยงานเอกชน เพื่อขยายตลาดและกระจายลำไยในอีกทางหนึ่ง“
จากนั้น นายอรรถกร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารฯ ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการรับมือพายุและสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 8 จังหวัด ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับทุกหน่วยงานในสังกัดให้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ทั้งในด้านการแจ้งเตือน การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ และการเข้าถึงพื้นที่ประสบเหตุ เพื่อการเข้าฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรได้อย่างทันถ่วงที