30 กันยายน 2567 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานตามแผนงานและนโยบาย ปี 2568 โดยมี นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมรับมอบนโยบายฯ ณ ห้องปรินซ์รูม โรงแรมปรินซ์พาเลซ ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ อธิบดีฯ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2568 กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ โดยมุ่งผลักดันให้สหกรณ์ภาคการเกษตร ภายใต้หัวข้อ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์“ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำมาเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ภาคการเกษตรทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรในชุมชนแบบมืออาชีพ มีการสร้างกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างอาชีพเสริม รวมถึงมีการสร้างกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างอาชีพเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการตลาดผลผลิตในสถาบันเกษตรกร เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 กรมส่งเสริมสหกรณ์มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของเกษตรกรและสหกรณ์ภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็ง โดยการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทำระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Agriculture) ฟาร์มเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ในพื้นที่การเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ได้ปริมาณต่อไรเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มคุณภาพผลผลิตทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้เป็นที่ยอมรับของตลาด ทั้งในด้านคุณภาพและความปลอดภัย รวมทั้งมีการส่งเสริมและพัฒนาร้านค้าสหกรณ์ให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรทั้งทางตรงและช่องทางออนไลน์ให้มีความเข้มแข็ง และผลักดันการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกันระหว่างสหกรณ์ภาคการเกษตรและสหกรณ์นอกภาคเกษตร
นอกจากนี้ อธิบดีฯ เน้นย้ำเพิ่มเติมว่า เป้าหมายการทำงานภายในปี 2568 กรมส่งเสริมสหกรณ์จะมุ่งพัฒนา “สหกรณ์” ให้เป็นสถาบันเกษตรกรที่มีบทบาทในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิก และพัฒนา “บุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์” ให้มีศักยภาพในการทำงานสูง สามารถเข้าไปดำเนินงานร่วมกับสหกรณ์ที่รับผิดชอบได้ เพื่อให้สามารถดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 7 เป้าหมาย ได้แก่ 1) ตลาดนำการผลิต เป็นการผลักดันแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์” 2) การแก้ปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้ได้อย่างน้อย 25% ของหนี้ NPL 3) การส่งเสริมปริมาณธุรกิจสหกรณ์ให้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3% ของธุรกิจสหกรณ์ 4) ฟื้นฟูสหกรณ์ที่ขาดทุนสะสมให้มีกำไรเพิ่มขึ้น 25% 5) การพัฒนาความเข้มแข็งของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้มีความเข้มแข็ง ชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 2 6) การพัฒนาบุคลากร จะต้องพัฒนาบุคลากรของสหกรณ์ และบุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น 7) การเตรียมความพร้อม และเริ่มดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ปี 2568 ให้เสร็จภายในไตรมาสแรก เพื่อให้สามารถคาดการณ์ถึงปัญหาหรืออุปสรรคที่จะเกิดขึ้น และสามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว