รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “การยกระดับองค์ความรู้ด้านการกำกับสหกรณ์”
17 กันยายน 2567 นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “การยกระดับองค์ความรู้ด้านการกำกับสหกรณ์” โดยมี นายพิษณุ พินรอด ผู้อำนวยการสำนักถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ นายไพฑูรย์ ชนะชู ผู้ตรวจราชการการกรม ส่วนกลาง และเขตตรวจราชการที่ 5 นายเฉลิม นวมนิ่ม สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้ร่วมอบรม ร่วมพิธีเปิด ณ โรงแรมอีโค่อินน์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ในปัจจุบันสหกรณ์ได้พัฒนาตนเองให้สามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการแข่งขัน และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการธุรกิจสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการให้บริการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของมวลหมู่สมาชิก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็งเพื่อเพิ่มศักยภาพและบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกรของประเทศ ได้อย่างยั่งยืน ตามนโยบาย/โครงการ และมาตรการต่าง ๆ นอกจากนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์และกลมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้บูรณาการร่วมกันในการส่งเสริมพัฒนาความเข้มแข็งให้กับขบวนการสหกรณ์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์ความรู้และยกระดับศักยภาพของบุคลากรที่ได้รับมอบอำนาจหน้าที่ในด้านการกำกับ ติดตาม ควบคุม ให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ผู้เข้าอบรมนำความรู้ที่ได้จากการอบรมครั้งนี้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานและปรับใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป
สำหรับโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “การยกระดับองค์ความรู้ด้านการกำกับสหกรณ์” จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่มีภารกิจหลักในการกำกับ แนะนำ ส่งเสริม สนับสนุนเผยแพร่และให้ความรู้เกี่ยวกับอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการสหกรณ์ แก่บุคลากรสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และประชาชนทั่วไปให้มีความเข้มแข็ง มีความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับการดำเนินงานและกำกับดูแลสหกรณ์ตามระเบียบ ประกาศ คำแนะนำของนายทะเบียนสหกรณ์ ยกระดับองค์ความรู้ด้านการกำกับสหกรณ์ ของบุคลากรให้เกิดประสิทธิภาพ โดยกำหนดจัดอบรมในระหว่าง วันที่ 17 - 18 กันยายน พ.ศ. 2567 ผู้เข้าอบรม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัด เจ้าหน้าที่นิคมสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ในเขตตรวจราชการที่ 4, 5, 6 และ 7 วิทยากร ผู้สังเกตการณ์เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 163 คน