รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปรับปรุงและทบทวนกฎหมายสหกรณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 - 20 สิงหาคม 2567
19 สิงหาคม 2567 นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปรับปรุงและทบทวนกฎหมายสหกรณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 - 20 สิงหาคม 2567 โดยมี นายไพฑูรย์ ชนะชู ผู้อำนวยการสำนักนายทะเบียนและกฎหมาย นางศรีรัตน์ จินตวร ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาระบบการตรวจการสหกรณ์ ผู้อบรม จำนวน 300 คน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอบรม ณ โรงแรม เอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
รองอธิบดีฯ กล่าวว่า “สหกรณ์เป็นองค์การของคณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สหกรณ์ในประเทศไทยเริ่มมาตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2459 คือ "สหกรณ์วัดจันทร์ ไม่จำกัดสินใช้" และมีพระราชบัญญัติสมาคมเพิ่มเติม พ.ศ. 2459 บังคับใช้กับสหกรณ์เป็นการชั่วคราว จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 7 จึงได้ตราพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2471 และยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมเพิ่มเติม พ.ศ. 2459 จากนั้นก็ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่อยมา เพื่อคุ้มครอง ส่งเสริม และกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ จนปัจจุบันเป็นพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติ สหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ซึ่งในปี 2567 นี้ ก็ได้ถึงรอบระยะเวลาการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านซึ่งนับได้ว่าเป็นตัวแทนของเหล่าขบวนการสหกรณ์ ได้เข้ามาร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ เพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหา อุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมาย และเป็นแนวทางปรับปรุง ทบทวนและพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ เอื้ออำนวยต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และการให้บริการประชาชน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาระบบสหกรณ์ไทยให้เติบโตก้าวหน้าดำรงอยู่ในธุรกิจและสังคมไทยอย่างมั่นคง”
ในการอบรมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความจำเป็นและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์อย่างรอบด้านและเป็นระบบ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรมาถ่ายทอดความรู้ในเรื่องสาระสำคัญของกฎหมายที่รับฟังความคิดเห็น เวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านกฎหมายสหกรณ์ และกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมอีกด้วย