อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนและเสริมสร้างความรู้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำหรับสหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงาน
31 กรกฎาคม 2567 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนและเสริมสร้างความรู้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำหรับสหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงาน โดยมี นายธนรัฐ โคจรานนท์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า นายพิษณุ พินรอด ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ นางทิพวรรณ เลิศหิรัณย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินสหกรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม และผู้เข้าร่วมอบรม ร่วมพิธีเปิด ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารฝึกอบรมส่วนกลาง สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ อธิบดีฯ กล่าวว่า ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาเป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมาในการเชื่อมโยงเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้ ด้วยการฟอกเงินและลงทุนอันมิชอบด้วยกฎหมายขยายไปในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาชญากรจะนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาเปลี่ยนสภาพให้เป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาอย่างถูกต้องทำให้ยากต่อการปราบปรามการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 กำหนดให้สหกรณ์ที่มีทุนดำเนินงานมูลค่าหุ้นรวมตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และมีวัตถุประสงค์ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการรับฝากเงิน ให้กู้ ให้สินเชื่อ รับจำนองหรือรับจำนำทรัพย์สินหรือจัดให้ได้มาซึ่งเงินและทรัพย์สินต่าง ๆ โดยวิธีใด ๆ เป็นสถาบันการเงิน และเมื่อมีการทำธุรกรรมตามเกณฑ์ที่กำหนดให้รายงานต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทราบเพื่อร่วมกันป้องกันและควบคุมการฟอกเงินของอาชญากรที่แทรกแซงเข้ามาในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
โดยอธิบดี ฯ เน้นย้ำให้คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดที่มีหน้าที่ดูแลว่า ในระบบมีสหกรณ์แห่งไหนรายงาน และไม่รายงานเข้ามาในแต่ละเดือน ถ้าสหกรณ์แห่งไหนไม่มีข้อมูลรายงานในแต่ละเดือน ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจะต้องมีหนังสือแจ้งไปที่สหกรณ์ เพื่อที่จะแจ้งให้คณะกรรมการได้ทราบ รวมทั้งคู่มือต้องมีการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องสร้างความมั่นคง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบสหกรณ์ ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการอบรมครั้งนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน นำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปปฏิบัติจริง และหากมีข้อซักถามสามารถสอบถามและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรจากสำนักงาน ปปง. ได้ เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติอย่างถูกต้องและตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
สำหรับโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนและเสริมความรู้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำหรับสหกรณ์ผู้มีผู้มีหน้าที่รายงาน จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนและเสริมสร้างความรู้กฎหมายว่าด้วยการและปราบปรามการฟอกเงินสำหรับสหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงาน ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้แทนสหกรณ์ วิทยากร เจ้าหน้าที่ และผู้สังเกตการณ์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 332 คน โดยจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ที่ห้องประชุมอาคารฝึกอบรมส่วนกลางสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ และผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรมZoom Meeting เพื่อให้คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงานสามารถปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวได้