อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรแกนกลางร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร พร้อมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “แนวทางสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร”
26 มีนาคม 2567 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรแกนกลางร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร พร้อมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “แนวทางสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร” ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมี นายพิษณุ พินรอด ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีเปิด ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ ถนนพิชัย กรุงเทพมหานคร โดยถ่ายทอดสดสัญญาณไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 และ 2 และศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 - 20
โอกาสนี้ อธิบดีฯ ได้กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีภารกิจหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ซึ่งกรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง หากสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรมีความเข้มแข็งจะสามารถอำนวยประโยชน์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้มากขึ้น ตามที่ได้มีการกำหนดไว้แผนพัฒนาการสหกรณ์ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566 - 2570) และแผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) ดังนั้น บุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์จะต้องมีความเข้าใจในเกณฑ์การประเมินระดับความเข้มแข็ง ทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 ความสามารถในการให้บริการสมาชิก มิติที่ 2 ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ มิติที่ 3 ประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร และมิติที่ 4 ประสิทธิภาพของการบริหารงาน ซึ่งจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างละเอียด ถูกต้อง ตรงกันโดยถ่องแท้ อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนทั้ง 4 มิติ นั้น บทบาทหน้าที่ที่สำคัญของบุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์จะต้องเข้าไปแนะนำ ส่งเสริม กำกับ ดูแล ให้สหกรณ์สามารถดำเนินการเป็นไปตามตัวชี้วัดของทั้ง 4 มิติ ทั้งการเข้าไปแนะนำส่งเสริมให้สมาชิกเข้ามาใช้บริการสหกรณ์ให้มากขึ้น ตลอดจนการสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของการรวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ แนะนำส่งเสริมให้สหกรณ์วิเคราะห์ต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ตระหนักถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น รวมทั้งการดูแลสหกรณ์เป็นเรื่องที่สำคัญ ความเข้มแข็งของสหกรณ์จะเริ่มต้นจากสมาชิกเข้ามาใช้บริการสหกรณ์ ขอเน้นย้ำการให้บริการสมาชิกจะต้องสำรวจความต้องการของสมาชิก และส่งเสริมให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของสหกรณ์ให้มากขึ้น คาดหวังว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนได้ตามเป้าที่ได้ตั้งไว้ในการยกระดับสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 42 ขอเน้นย้ำการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบการประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์ ขอให้ตรวจสอบความถูกต้องตามข้อเท็จจริง แนะนำบุคลากรให้เข้าใจในตัวชี้วัดและการเข้าใช้งานระบบฯ ด้วย ขอให้ทุกท่านตั้งใจอบรมและนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ต่อการทำงาน ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมให้เกิดประโยชน์เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จมากขึ้น ขอให้มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสร้างสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง ส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นต่อไป
สำหรับโครงการพัฒนาบุคลากรแกนกลางร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ผ่านระบบ Zoom Meeting จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 - 28 มีนาคม 2567 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ข้าราชการสำนักงานสหกรณ์จังหวัดและสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 และ 2 ระดับชำนาญการขึ้นไป มีประสบการณ์ 10 ปีขึ้นไป จำนวน 103 คน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริม จำนวน 71 คน ข้าราชการส่วนกลางจากกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร กองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า กองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ กองแผนงาน สำนักนายทะเบียนและกฎหมาย จำนวน 23 คน ข้าราชการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 - 20 จำนวน 20 คน เจ้าหน้าที่ วิทยากร และผู้สังเกตการณ์ จำนวน 13 คน รวมผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น 230 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นในการร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผ่านแผนพัฒนาการสหกรณ์ แผนปฏิบัติราชการของกรมส่งเสริมสหกรณ์ และเกณฑ์การประเมินความเข้มแข็งสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ทั้ง 4 มิติ รวมทั้งสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบุคลากรแกนกลางในการสื่อสารและถ่ายทอดทำความเข้าใจไปสู่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติงานส่งเสริม แนะนำ และงานกำกับ ดูแลสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรของหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาการสหกรณ์ และแผนปฏิบัติราชการของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นนโยบายการพัฒนาประเทศทางด้านสหกรณ์และเป็นนโยบายสำคัญของกระทวงเกษตรและสหกรณ์อีกด้วย