ลงพื้นที่เยี่ยมชมกระชังเลี้ยงปลานิลและปลาเผาะ ของนางอนงนุช สาโท สมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงปลานครพนม จำกัด
1 พฤษภาคม 2566 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่เยี่ยมชมกระชังเลี้ยงปลานิลและปลาเผาะ ของนางอนงนุช สาโท สมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงปลานครพนม จำกัด พร้อมให้คำแนะนำในการดำเนินงาน การแปรรูปสินค้าให้มีคุณภาพ และให้กำลังใจแก่สมาชิกสหกรณ์ที่มารอต้อนรับ
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่เยี่ยมชมกระชังเลี้ยงปลานิลและปลาเผาะ ของนางอนงนุช สาโท สมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงปลานครพนม จำกัด พร้อมให้คำแนะนำในการดำเนินงาน การแปรรูปสินค้าให้มีคุณภาพ และให้กำลังใจแก่สมาชิกสหกรณ์ที่มารอต้อนรับ โดยมี นางสาววัชรี ปุกหุต สหกรณ์จังหวัดนครพนม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม ร่วมลงพื้นที่ ณ บ้านห้อม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ในปีบัญชี 30 เมษายน 2565 สหกรณ์มีกำไร 29,565 บาท สหกรณ์ดำเนินการส่งเสริมให้สมาชิกเลี้ยงปลาในกระชัง จำนวน 600 กระชัง ปริมาณปลา 510 ตัน/ปี ปลานิลจะส่งจำหน่ายให้กับ ซีพี ราคา 67 - 70 บาท/กก. จำหน่ายในตลาด ราคา 70 - 75 บาท/กก. และหน้ากระชัง (รับเอง) ราคา 67 บาท/กก. ในส่วนปลาเผาะ สมาชิกจะจำหน่ายในตลาด ราคา 130 - 150 บาท/กก. และหน้ากระชัง (รับเอง) ราคา 120 - 130 บาท/กก. เฉลี่ยการลงทุนเลี้ยงปลา 25,000 บาท/กระชัง สมาชิกสามารถจำหน่ายปลาได้ประมาณ 57,000 บาท/กระชัง ซึ่งการเลี้ยงปลาในกระชังเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้เป็นอย่างดี
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสหกรณ์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้ผลผลิตปลานิลล้นตลาด เนื่องจากความต้องการบริโภคลดลงและปัญหาการขนส่งออกนอกเขตจังหวัดนครพนม สหกรณ์มีแนวทางแก้ไขดำเนินการส่งเสริมการขายโดยการลดราคาสินค้าปลานิลในราคายุติธรรม และจัดจำหน่ายโดยรถเร่ไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ส่งเสริมให้สมาชิกแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น ปลาแห้ง แดดเดียว ปลาร้า รวมทั้งสำนักสหกรณ์จังหวัดนครพนม ได้จัดหาจุดเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์จำหน่ายสินค้าปลานิล โดยการใช้เครือข่ายสหกรณ์ระดับอำเภอเป็นจุดกระจายสินค้าปลานิล
สหกรณ์ผู้เลี้ยงปลานครพนม จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิก 349 ราย ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจเงินรับฝาก ทั้งนี้ ในปี 2565 กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ จำนวน 2.4 ล้านบาท และปี 2566 วงเงิน 2 ล้านบาท รวมทั้งได้สนับสนุนเงินอุดหนุนอุปกรณ์การตลาด โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการประมงการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร ปีงบประมาณ 2561 เป็นเงินจำนวน 319,500 บาทด้วย