โครงการอบรมเตรียมความพร้อมการปฏิบัติตามกฎกระทรวง มาตรา 89/2
23 มีนาคม 2566 นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเตรียมความพร้อมการปฏิบัติตามกฎกระทรวง มาตรา 89/2 ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รุ่นที่ 1
นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเตรียมความพร้อมการปฏิบัติตามกฎกระทรวง มาตรา 89/2 ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รุ่นที่ 1 โดยมี นางสุวรรณี ศรีสุวรรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า ผู้อำนวยการกลุ่ม ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเปิดโครงการ ณ ห้องประชุมกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ (กพน.2) กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร และถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting
รองอธิบดีฯ กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ถือเป็นสถาบัน
การเงินประเภทหนึ่งที่มีการดำเนินธุรกิจให้เงินกู้และรับฝากเงินจากสมาชิก โดยประเภทสหกรณ์ออมทรัพย์มีปริมาณสินทรัพย์มากเป็นอันดับ 1 ของสหกรณ์ทุกประเภท ซึ่งมีปริมาณสินทรัพย์มากกว่า 3 ล้านล้านบาท และประเภทสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมีปริมาณสินทรัพย์มากกว่า 6 หมื่นล้านบาทโดยมี
ปริมาณสินทรัพย์มากเป็นอันดับ 7 ของสหกรณ์ทุกประเภท ดังนั้นคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนซึ่งต้องมีการบริหารจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพ มีการบริหารความเสี่ยงในสหกรณ์ สามารถให้บริการสมาชิกอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะการให้สินเชื่อแก่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น ต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์ระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้แก่สมาชิกอย่างรัดกุมเพื่อให้สอดคล้องตามความต้องการของสมาชิกและคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกเป็นหลักรวมทั้งการสร้างการรับรู้รื่องของวินัยในการชำระหนี้ให้แก่สมาชิกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงด้านเครดิดจากการที่สมาชิกไม่สามารถชำระหนี้คืนไว้ตามกำหนดที่อาจส่งผลต่อฐานะการเงิน รายได้ และค่าใช้จ่ายทำให้การดำเนินงานของสหกรณ์มีผลขาดทุน และหากสหกรณ์มีการเชื่อมโยงเงินในระบบจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบสหกรณ์ได้และเป็นที่ทราบกันดีว่าได้ออกกฎกระทรวง
ใช้บังคับกับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแล้ว 1 ฉบับ และจะมีการออกกฎกระทรวงฉบับที่ 2 ตามมา ซึ่งมีเกณฑ์การจัดชั้นสินทรัพย์และการกันเงินสำรอง อาจส่งผลกระทบต่อสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนส่วนใหญ่ที่มีหนี้ค้างชำระจำนวนมากได้ ดังนั้น ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้ที่ได้รับไปเตรียมความพร้อมรองรับการปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 โดยมีแผนบริหารสินเชื่อ และมีการติดตามแผนอย่างเป็นระบบเพื่อไม่ให้สหกรณ์ได้รับผลกระทบ
สำหรับโครงการอบรมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ และมีความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎกระทรวง กฎหมายเกี่ยวกับหนี้ รวมทั้งแนวทางการบันทึกบัญชีลูกหนี้เงินให้กู้และประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดำเนินงานของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพ ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย คณะกรรมการและฝ่ายจัดการสหกรณ์ 240 สหกรณ์ ๆ ละ 2 คน ผู้สังเกตการณ์ วิทยากร และเจ้าหน้าที่โครงการ รวม 500 คน