ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรวบรวมผลผลิตการเกษตร (คุ้งวารี) ของสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
25 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรวบรวมผลผลิตการเกษตร (คุ้งวารี) ของสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรวบรวมผลผลิตการเกษตร (คุ้งวารี) ของสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมเป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนนโยบายการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรผ่านกลไกสหกรณ์ โดยมี นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศุภธีร์ อยู่วัฒนา ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 1 และ 18 นายสุธี ขันทอง สหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ นายประพันธ์ มายรรยงค์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองอุตรดิตถ์ จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรในพื้นที่ ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ รมช.มนัญญา ได้มอบเงินอุดหนุนเพื่อสนับสนุนปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์การตลาด ให้แก่สหกรณ์ 17 แห่ง 1 กลุ่มเกษตรกร รวมมูลค่ามากกว่า 247 ล้านบาท ส่งผลให้สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจรวบรวม 303,532.59 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,179.42 ล้านบาท เกษตรกรได้รับประโยชน์ 39,948 ราย มอบเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์สนับสนุนเงินกู้เพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพ วงเงิน 739 ล้านบาท และเงินชดเชยดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย วงเงินชดเชย 15.924 ล้านบาท สมาชิก 23,964 ราย มอบเงินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี จำนวน 33,800 ตัน ๆ ละ 500 บาท รวมมูลค่า 16.9 ล้านบาท รวมทั้งได้มอบใบรับรองแหล่งพืช GAP พืช (ทุเรียน) ให้แก่ผู้แทนเกษตร
จากนั้น รมช.มนัญญา เป็นประธานพิธีเปิดเครื่องอบลดความชื้น ขนาด 500 ตัน/วัน ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดย สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 105.291 ล้านบาท ภายใต้โครงการปรับโครงสร้างการผลิตการรวบรวมและการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร (พ.ร.ก.ฉุกเฉินโควิด 2019) พร้อมไซโลเป่าลมเย็นพร้อมโรงคลุม ขนาดไม่น้อยกว่า 10,000 ตัน/วัน ผลการรวบรวม 95,671.94 ตัน คิดเป็นมูลค่า 758,117,930 บาท เกษตรกรได้รับประโยชน์ 10,121 ราย ทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิตในระดับชุมชน สมาชิกสามารถเข้าถึงประโยชน์จากสหกรณ์ในการให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร การรวบรวม รับซื้อ และแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
ที่ผ่านมา สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวโพดหลังนา ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนการปลูกข้าวในฤดูนาปรัง เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนน้ำและทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งผลการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาในปีที่ผ่านมา สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถรวบรวมผลิต 39,611 ตัน มูลค่ามากกว่า 284.337 ล้านบาท ปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ 15 แห่ง จำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ 1,171 ราย พื้นที่ 15,693 ไร่ ได้รับสนับสนุนเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ในอัตราพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2566 สำหรับนำไปส่งเสริมการประกอบอาชีพปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของสมาชิก และเพื่อการสนับสนุนสหกรณ์ให้มีเงินทุนหมุนเวียนสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผน จากนั้น รมช.มนัญญา ได้พบปะสมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกร กล่าวมอบนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แนวทางการดำเนินงานการพัฒนาอาชีพการเกษตร เพื่อสร้างการรับรู้และให้กำลังใจแก่เกษตรกร
“ขอชื่นชมคณะกรรมการสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล บูรณาการความร่วมมือกัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์การตลาดจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ อาทิ ไซโล โรงสี ลานตาก รถบรรทุก โรงอบลดความชื้น ช่วยให้สหกรณ์มีศักยภาพในการรวบรวม แปรรูปผลผลิต เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ยกระดับรายได้และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับสมาชิกและเกษตรกร และในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้สหกรณ์มีความเติบโต เจริญก้าวหน้า รวมทั้งการดำเนินนโยบายการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ตามโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ ที่สามารถขับเคลื่อนทั่วประเทศ มีเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เก่ง มีความสามารถ นำองค์ความรู้มาพัฒนาภาคการเกษตรให้มีความก้าวหน้า มีการเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์กับโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีแหล่งจำหน่ายสินค้า ซึ่งแผนงานและโครงการต่าง ๆจะช่วยฟื้นฟู พัฒนา และยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน รวมทั้งระบบสหกรณ์มีความเข้มแข็งด้วย” รมช.มนัญญา กล่าว
จากนั้น รมช.มนัญญา เยี่ยมชมนิทรรศการจัดแสดงผลงานของหน่วยงานราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โครงการเสริมสร้างการจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อจัดการเศรษฐกิจระดับครัวเรือน โครงการเกษตรส่งเสริม/สนับสนุนการทำเกษตรปลอดภัย (GAP) และโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ที่เชื่อมโยงเครือข่ายสินค้ากับสหกรณ์ทั้งในและนอกจังหวัด รวมทั้งชมนิทรรศการนำเสนอผลการดำเนินการโครงการนำลูกหลานเกษตรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร มีเกษตรกรรุ่นใหม่เข้าร่วม 3 ราย ทั้งนี้ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรให้หันกลับมาทำอาชีพเกษตรกรรมมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกร และบุคคลทั่วไป ที่ประสบปัญหาด้านการประกอบอาชีพในเมือง แต่มีพื้นที่พร้อมประกอบอาชีพเกษตรกรรม กลับมาพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมในบ้านเกิดตนเอง โดยมีหน่วยงานของภาครัฐและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ให้คำแนะนำส่งเสริมในการประกอบอาชีพ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีอาชีพที่ยั่งยืน