โครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting รุ่นที่ 4
10 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting รุ่นที่ 4 ภาคใต้
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting รุ่นที่ 4 ภาคใต้ โดยมี นางสุวรรณี ศรีสุวรรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า นางทิพวรรณ เลิศหิรัณย์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เจ้าหน้าที่สหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 13 และ 16 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จำนวน 231 ราย วิทยากร ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมโครงการ โดยถ่ายทอดสัญญาณจากห้องประชุมกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวว่า สหกรณ์ในประเทศไทยเติบโตขึ้นตามลำดับปัจจุบันมีสินทรัพย์ 3.58 ล้านล้านบาท ซึ่งมีความสำคัญในระบบการเงินของประเทศไทยเป็นอย่างมาก สหกรณ์ที่มีทุนดำเนินการมูลค่าหุ้นรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และมีการรับฝากเงิน ให้กู้ ถือเป็นสถาบันการเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูง เป็นมูลเหตุให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นสมาชิกสบทบ และมีเงินเข้ามาในสหกรณ์มากขึ้น ดังนั้น สหกรณ์จำเป็นต้องตรวจสอบในขั้นต้น คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ต้องกำหนดนโยบายการป้องกันการฟอกเงินเป็นนโยบายที่สำคัญ ดำเนินการตามขั้นตอน กระบวนการอย่างเข้มข้น เคร่งครัด ไม่ละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินซึ่งมีหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ เรื่อง การจัดให้ลูกค้าหรือสมาชิกสหกรณ์แสดงตน การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าหรือสมาชิกสหกรณ์ และการรายงานธุรกรรม โดยเฉพาะการทำธุรกรรมที่เกินกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป หรือธุรกรรมที่มีความน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องหมั่นสังเกต สอดส่องการนำเงินเข้ามาในระบบสหกรณ์ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายมูลฐานการฟอกเงินหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องจัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรายงานเข้ารับการอบรมเพื่อสร้างความตระหนักถึงหน้าที่ ความสำคัญ ผลกระทบหรือบทลงโทษหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ในการป้องกันความเสี่ยง และอยากให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์กำหนดให้การป้องกันการฟอกเงินเป็นนโยบายที่สำคัญของสหกรณ์ ร่วมกันให้สหกรณ์มีความโปร่งใส มีการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ส่งผลให้สหกรณ์มีความยั่งยืนได้อย่างแท้จริงต่อไป
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจหลักในการแนะนำส่งเสริม และกำกับดูแลสหกรณ์ให้ปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการส่งเสริมสนับสนุนให้สหกรณ์ปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีการลงนามความร่วมมือที่จะให้ความรู้ความเข้าใจแก่สหกรณ์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อไม่ให้สหกรณ์เป็นสถาบันที่สุ่มเสี่ยงต่อการฟอกเงิน ไม่ให้สหกรณ์มีการละเว้นการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนตามกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความตั้งใจ และนำความรู้ที่ได้รับกลับไปปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สหกรณ์ปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างครบถ้วน
สำหรับโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ผ่านระบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom Meeting โดยกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้าจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 10 กุมภาพันธ์ 2566 แบ่งเป็นจำนวน 5 รุ่น มีกลุ่มเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 1,497 ราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 13 และ 16 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ได้รับการอบรมและผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 6 ชั่วโมง