พิธีเปิดการจัดงานโครงการ “สานฝัน เชื่อมสัมพันธ์ คนสหกรณ์น่าน” ครั้งที่ 4
22 ธันวาคม 2565 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานโครงการ “สานฝัน เชื่อมสัมพันธ์ คนสหกรณ์น่าน” ครั้งที่ 4 โดยมี นายพิษณุ คล้ายเจตน์ดี ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 15 และ 16 นายสมาน สุภัควาณิชย์ สหกรณ์จังหวัดน่าน
นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานโครงการ “สานฝัน เชื่อมสัมพันธ์ คนสหกรณ์น่าน” ครั้งที่ 4 โดยมี นายพิษณุ คล้ายเจตน์ดี ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 15 และ 16 นายสมาน สุภัควาณิชย์ สหกรณ์จังหวัดน่าน นายเกรียงศักดิ์ หางนาค ผู้อำนวยการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 12 บุคลากรสำนักงานสหกรณ์จังหวัดน่าน คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยฟอง เข้าร่วมกิจกรรม ณ โรงเรียนบ้านห้วยฟอง ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
ในการนี้ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ได้รับชมงานแสดงต้อนรับของนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยฟอง พร้อมมอบเงินรางวัลแก่นักเรียนนักแสดง และมอบเงินเพื่อเลี้ยงอาหารกลางวัน จำนวน 4,000 บาท โอกาสนี้ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน ทุนละ 500 บาท จำนวน 10 ทุน พร้อมมอบของบริจาค อุปกรณ์การเรียน กระเป๋านักเรียน รองเท้านักเรียน อุปกรณ์เครื่องเล่น หนังสือ จากนั้น ได้เยี่ยมชมห้องกิจกรรมสหกรณ์นักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยฟอง
ทั้งนี้ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดน่าน ร่วมกับขบวนการสหกรณ์ ส่วนราชการในจังหวัดน่าน ภาคเอกชนและผู้ใหญ่ใจดี จัดโครงการ “สานฝัน เชื่อมสัมพันธ์ คนสหกรณ์น่าน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมเด็กในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมทั้งให้บุคลากรในขบวนการสหกรณ์จังหวัดน่าน และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดน่าน ได้เล็งเห็นความสำคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศในอนาคต อีกทั้ง เพื่อให้เกิดการรู้จักแบ่งปัน การมีเมตตาต่อผู้อื่น นอกจากนี้ ยังได้รับการบริจาคทุนทรัพย์ และสิ่งของต่างๆ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 12 จังหวัดพิษณุโลก ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดน่าน บุคลากรในสำนักงานสหกรณ์จังหวัดน่าน และบุคคลทั่วไปที่มีจิตศรัทธา เพื่อจัดซื้อสิ่งของ มอบให้กับโรงเรียน พร้อมทั้งจัดเป็นทุนการศึกษา และเลี้ยงอาหารแก่นักเรียนอีกด้วย ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนและองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศในอนาคตต่อไป