ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของสหกรณ์กองทุนสวนยางตาเนาะ จำกัด พร้อมด้วย นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

15 ธันวาคม 2565 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของสหกรณ์กองทุนสวนยางตาเนาะ จำกัด พร้อมด้วย นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางรอซนานี สันหมุด หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์

 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของสหกรณ์กองทุนสวนยางตาเนาะ จำกัด พร้อมด้วย นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางรอซนานี สันหมุด หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม และคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมี นายธัชพงศ์ บัวนุช สหกรณ์จังหวัดยะลา นายสมชาย แซ่เลี่ยง ประธานกรรมการ ผู้แทนสหกรณ์ในอำเภอเบตง และสมาชิกสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางตาเนาะ จำกัด ตำบลเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
 ในการนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับฟังผลการดำเนินงาน ให้แนวทาง คำแนะนำในการดำเนินงานและการแก้ไขปัญหา แก่เจ้าหน้าที่สมาชิกสหกรณ์ให้มีการดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้กำลังใจและกล่าวชื่นชมสหกรณ์ โดยเน้นย้ำในเรื่องการทำงานในรูปแบบของกลุ่มที่สมาชิกทำอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการรวมกลุ่มมีความก้าวหน้ามาเรื่อยๆ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสมาชิก ช่วยในเรื่องของการขายน้ำยาง ยางแผ่น หรือว่าซื้อปัจจัยการผลิตจากสหกรณ์มาใช้ เพื่อที่จะดูแลในเรื่องของการประกอบอาชีพการทำสวนยาง ซึ่งจากที่ดูในเรื่องของผลการดำเนินงานแล้ว สหกรณ์มีความเข้มแข็ง ทั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของสมาชิก และด้วยความสามารถของคณะกรรมการ ทำให้สหกรณ์แห่งนี้มีความก้าวหน้า สามารถเป็นที่พึ่งให้กับสมาชิกต่อไปได้
 สหกรณ์กองทุนสวนยางตาเนาะ จำกัด เป็นสหกรณ์ภาคการเกษตร ปัจจุบันมีสมาชิก 173 ราย มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 13.5 ล้านบาทเศษ จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2537 สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน มีปริมาณธุรกิจรวม 19.6 ล้านบาท โดยธุรกิจแปรรูปผลผลิตการเกษตรและการผลิตสินค้า สหกรณ์รวบรวมน้ำยางเพื่อผลิต คิดเป็นยางแห้ง จำนวน 1,169.325 ตัน เป็นเงิน 18.6 ล้านบาท ธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายเป็นยางแผ่นรมควัน ยางฟอง ยางคัตติ้ง และเศษยาง จำนวน 424.674 ตัน เป็นเงิน 25.1 ล้านบาท ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย สหกรณ์จัดหาเคมีการเกษตรและอุปกรณ์การเกษตรเพื่อจัดจำหน่ายให้สมาชิกในราคาถูกกว่าท้องตลาด 10 - 20 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิก เป็นเงิน 858,350 บาท