พิธีเปิดโครงการสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการ “ต้นกล้าสานฝันปันรัก...สู่ลูกหลาน”
9 ธันวาคม 2565 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการ “ต้นกล้าสานฝันปันรัก...สู่ลูกหลาน” โดยมี นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการ “ต้นกล้าสานฝันปันรัก...สู่ลูกหลาน” โดยมี นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกรมป่าไม้ ผู้แทนกรมพัฒนาธุรกิจ และผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายสำคัญด้านการส่งเสริมการเกษตรในการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว ส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจากป่าปลูกแบบครบวงจร และแผนแม่บทแห่งชาติภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติกำหนดพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่าร้อยละ 55 ของพื้นที่ประเทศ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นมีค่า เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศแล้ว ยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอกู้เงิน ทำให้เข้าถึงสินเชื่อที่มีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน ส่งเสริมให้มีการให้หลักประกันทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่การประกอบธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
สำหรับโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนพันธุ์ไม้มีค่า ไม้ผล ไม้ยืนต้นเศรษฐกิจและพืชผักพืชอาหารให้แก่เกษตรกร สำหรับทำการเกษตรตามระบบเกษตรกรรมยั่งยืน สำหรับพันธุ์ไม้ที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ศูนย์ปฏิบัติการและศูนย์ขยายพันธุ์พืชของกรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินการผลิตพันธุ์ไม้มีค่า ไม้ผล ไม้ยืนต้นเศรษฐกิจ และพืชผักพืชอาหาร รวม 372,300 ต้น และได้รับการสนับสนุนจากกรมป่าไม้ เป็นต้นกล้าไม้มีค่า ไม้ยืนต้นเศรษฐกิจ จำนวน 1,166,100 ต้น เช่น สัก พะยูง ประดู่ ชิงชัน ตะแบก เป็นต้น รวมพันธุ์ไม้ทั้งสิ้น 1,538,400 ต้น ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความพร้อมสำหรับการแจกจ่ายได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อสร้างการรับรู้การดำเนินงานโครงการให้เกษตรกรและผู้สนใจได้รับรู้ถึงความสำคัญของการปลูกไม้เพื่อใช้ประโยชน์ เป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ เป็นหลักประกันได้ในอนาคต ตลอดจนเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศต่อไป โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกรมป่าไม้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของเกษตรกรให้มากขึ้น