ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงปลูกดอกดาวเรืองของ นางสาวอลิสา เรืองพิศาล เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน
5 พฤษภาคม 2565 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพงศธร ศรีชัย สหกรณ์จังหวัดพะเยา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงปลูกดอกดาวเรืองของ นางสาวอลิสา เรืองพิศาล เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร
นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพงศธร ศรีชัย สหกรณ์จังหวัดพะเยา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงปลูกดอกดาวเรืองของ นางสาวอลิสา เรืองพิศาล เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ณ แปลงปลูกดอกดาวเรือง เลขที่ 209 หมู่ 8 บ้านเจน ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา
นางสาวอลิสา เรืองพิศาล อายุ 35 ปี มีพื้นที่ปลูกดาวเรือง 4 ไร่ พร้อมกับทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งตนเองลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพมหานคร กลับมาอยู่บ้านตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากพ่อกับแม่มีปัญหาด้านสุขภาพ รวมทั้งตนเองมีความสนใจเรื่องการทำเศรษฐกิจพอเพียง และได้รับทราบข่าวสารโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร จากสื่อโซเชียล จึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ไปศึกษาดูงานในศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ในส่วนของการปลูกดอกดาวเรืองนั้น เนื่องจากแม่ของตนเองเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรในเครือข่ายผู้สูงอายุ ได้เมล็ดพันธุ์ดาวเรืองมาปลูก แต่ปลูกแล้วไม่มีที่จำหน่าย จึงจำเป็นต้องหาตลาดเอง โดยเริ่มจากไปศึกษาตลาดดอกไม้ ที่ปากคลองตลาด และได้ทำสัญญาส่งดอกดาวเรืองให้กับผู้ค้าวันละ 100,000 ดอก จากนั้นกลับบ้านมาสนับสนุนการปลูกดอกดาวเรืองในพื้นที่จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกร และผู้สูงอายุ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ทำให้มีคนสนใจปลูกเพิ่มมากขึ้นด้วย
นางสาวอลิสา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 49 คน ที่ส่งดอกดาวเรืองมารวบรวมที่นี่ ตนเองและสมาชิกปลูกต้นดอกดาวเรืองไปแล้ว 80,000 ต้น สามารถเก็บดอกได้ประมาณ 120 ดอกต่อต้น คิดกำไรต้นละ 10 บาท จะมีรายได้มากถึง 800,000 บาท มีระยะเวลาการเก็บเกี่ยว 3 เดือน ซึ่งตนเองมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ของตนเองและสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการจ้างกลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มผู้สูงอายุแพคถุงดอกดาวเรือง ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู้สูงอายุอีกทางหนึ่งด้วย ในส่วนรายได้ของสมาชิกนั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลต้นให้ออกผลผลิตได้สมบูรณ์ ดอกใหญ่กลม จะขายได้ราคาสูง ด้านต้นทุนในพื้นที่ 1 ไร่ มีต้นทุน 15,000 บาท สามารถปลูกดอกดาวเรืองได้ 4,000 ต้น ถ้าดูแลรักษาต้นดอกดาวเรืองอย่างดี สามารถสร้างรายได้มากถึง 80,000 บาท ต่อไร่ ทั้งนี้ ท่านรองอธิบดีฯ อัชฌา ได้แนะนำให้ดำเนินการรวมกลุ่มในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อให้มีอำนาจในการต่อรองราคา มีการบริหารจัดการที่ดีสะดวก รวดเร็วมากขึ้นอีกทั้งสมาชิกที่เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่จะได้นำองค์ความรู้ ทักษะ เทคโนโลยี มาพัฒนาให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งด้วย สำหรับโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ ทำให้ตนเองมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว ได้มีโอกาสดูแลพ่อกับแม่ ชีวิตมีความสุขและช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพะเยา ได้ดำเนินโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร มีเกษตรกรรุ่นใหม่สมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 46 ราย ในปีงบประมาณ 2565 มีเกษตรกรรุ่นใหม่เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ จำนวน 10 ราย ซึ่งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพะเยา ได้มีการติดตามผลการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป