19 มกราคม 2565 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายบรรจง ชัยขุนพล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายบรรจง ชัยขุนพล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ และถ่ายทอดไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กรมการค้าภายใน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบ Zoom meeting ในครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเปิดการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในพื้นที่ที่ดินที่ได้จัดสรรให้เกษตรกรไปทำกิน อยากให้เกษตรกรเหล่านั้นได้ใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ที่สุด และประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพทำการเกษตร มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรได้ระดับหนึ่ง
จากนั้น ที่ประชุมได้แจ้งที่ประชุมได้ทราบถึงคำสั่งแต่ตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด โดยมีนายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงานและนายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานคณะทำงาน และมีผู้แทนจาก 14 หน่วยงานเป็นคณะทำงานดังกล่าว เพี่อทำหน้าที่ในการศึกษาแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด รวมถึงรายงานผลการศึกษากรอบแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดในพื้นที่คทช. ซึ่งในภาพรวมพื้นที่คทช.เป้าหมายทั้งหมดมี 1442 พื้นที่ใน 70 จังหวัด เนื้อที่กว่า 5.7 ล้านไร่ และได้คัดเลือกพื้นที่เป้าหมายสำหรับการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด จำนวน 185 พื้นที่ 62 จังหวัด ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา หน่วยงานบูรณาการที่ร่วมกันลงพื้นที่ส่งเสริมอาชีพในพื้นที่คทช.โดยได้รับงบประมาณรวม 146.207 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามกรอบภารกิจ 6 ด้าน ทั้งด้านพัฒนาดิน การจัดหาแหล่งน้ำ การส่งเสริมอาชีพด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ การรวมกลุ่ม การสนับสนุนเงินทุนและการอบรมทำบัญชีครัวเรือน
สำหรับในปี 2565 คณะอนุกรรมการฯได้กำหนดแผนงานในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพในพื้นที่เป้าหมายและพื้นที่ดำเนินงานของคทช. โดยได้รับจัดสรรงบประมาณ 99 ล้านบาท เพื่อใช้ในการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาการผลิตสินค้าการเกษตรให้มีคุณภาพ การจัดทำระบบดินและน้ำให้มีคุณภาพ สนับสนุนปัจจัยการผลิต การแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า และส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อเป็นสถาบันเกษตรกร โดยนำระบบสหกรณ์เข้ามาเป็นกลไกในการบริหารจัดการผลผลิตและการดำเนินธุรกิจร่วมกันของคนในชุมชน
จากนั้น ที่ประชุมได้รายงานผลการศึกษาของคณะทำงานศึกษาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและตลาด ภายใต้กรอบแนวทาง 3S ได้แก่
1.Sufficiency Economy การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง
2.Social Business การพัฒนาสถาบันเกษตรกร ที่จัดตั้งขึ้นในพื้นที่คทช. ในรูปของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรหรือวิสาหกิจชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสังคมและ
3.Sustainable Development Goals (SDGs) การพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะยึดพื้นที่และประชาชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในบริหารจัดการได้อย่างเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด
ซึ่งในปี 2565 ได้คัดเลือกพื้นที่คทช.ที่เป็นเป้าหมาย จำนวน 30 แห่ง เป็นเป้าหมายหลักของการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาด และจะดำเนินการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้ชุมชนดังกล่าวมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด