ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด

18 ธันวาคม 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด กล่าวมอบนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกล่าวชื่นชมสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด และสหกรณ์ในจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามนโยบายต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนโยบายที่สำคัญของกรมส่งเสริมสหกรณ์ด้วยดีเสมอมา สามารถขับเคลื่อนงานสหกรณ์ให้ประสบผลสำเร็จ มุ่งสร้างผลประโยชน์ สร้างรายได้และความมั่นคงทางอาชีพอย่างยั่งยืนให้กับสมาชิก จากนั้น ได้มอบปัจจัยการผลิต ได้แก่ อ้อยคั้นน้ำพันธุ์สุพรรณบุรี 50 มันสำปะหลัง พันธุ์ระยอง 72 และข้าวโพดเทียนให้แก่สมาชิกสหกรณ์ ณ สหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวัฒนะ สัตยวงศ์ทิพย์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรในพื้นที่ ให้การต้อนรับ
 โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชมกระบวนการผลิตปุ๋ยเคมีผสมใช้เอง ซึ่งสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสถาบันเกษตรกรเพื่อลดต้นทุนการผลิต สหกรณ์ผสมปุ๋ย 7 สูตรจำหน่ายให้กับสมาชิก มากกว่า 958.2 ตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 12.514 ล้านบาท จากนั้น เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบปะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา และชมผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรรุ่นใหม่ ของนางสาววิไลพร เรืองไชย อายุ 35 ปี หนึ่งในสมาชิกเข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน ทำเกษตรผสมผสาน ใช้พื้นที่ 10 ไร่ ทำนา ทำไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปลูกผักสวนครัว ผลไม้ เลี้ยงปลา ปลูกดอกดาวเรือง และกระบือ 5 ตัว และเยี่ยมชมการเลี้ยงแพะของนางสาวสิวิภา กรสันเทียะ ทั้งนี้ ในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านสานต่ออาชีพการเกษตร จำนวน 161 คน มีสหกรณ์ภาคการเกษตรสมัครเพื่อเป็นพี่เลี้ยง จำนวน 33 สหกรณ์ พร้อมชมนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ของสมาชิกสหกรณ์ อาทิ นมโค-ราช จากสหกรณ์การเกษตรสีคิ้ว จำกัด ข้าวสาร จากสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ผลิตภัณฑ์พริกแกง ผักปลอดสารพิษ จากกลุ่มสัมมาชีพบ้านดอนตะหนินใหญ่ ผ้าทอ จากกลุ่มสตรีบ้านกุดโดก กล้วยตาก กล้วยอบ กล้วยฉาบ กล้วยเบรกแตก จากกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเทวาสุขสันต์ และกิจกรรมนาทีทอง จำหน่ายสินค่าราคาพิเศษ อาทิ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำตาลทราย เป็นต้น
 จากนั้น ได้เยี่ยมชมซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด ซึ่งสหกรณ์ได้สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจร้านค้าสหกรณ์ในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต ปี 2563 มีแนวคิดจะพัฒนาร้านค้าสหกรณ์ให้เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ โดยใช้แนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ผู้ผลิต เชื่อมโยงไปสู่ผู้บริโภค โดยผ่านร้านค้าสหกรณ์เป็นจุดจำหน่ายและกระจายสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้และสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินค้าของสมาชิก เกษตรกร จากแหล่งการผลิตที่มีคุณภาพและราคายุติธรรม โดยสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด มีการจำหน่ายสินค้าอุปโภค – บริโภค สินค้าสหกรณ์เครือข่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ให้เลือกซื้อหลากหลาย ส่งเสริมสมาชิกเกษตรกรในชุมชนนำสินค้าปลอดภัย ในราคายุติธรรม มาจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ด้วย รวมทั้งได้พบปะพี่น้องเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์
 สหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2514 ปัจจุบันมีสมาชิก 10,406 ราย มีทุนดำเนินงานมากกว่า 1,564 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจหลัก 7 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจรวบรวม (มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) ธุรกิจแปรรูปฯ อาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี ประเภทมันเส้น ธุรกิจศูนย์ขยายพันธุ์สุกร ธุรกิจให้บริการและส่งเสริมการเกษตร และธุรกิจเงินฝาก ที่ผ่านมากรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์การตลาด อาทิ เครื่องสีข้าวโพด เครื่องสับมันสำปะหลัง เครื่องอบลดความชื้น รถแทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ และก่อสร้างโกดังสินค้าเกษตร ลานตาก เพื่อเพิ่มศักยภาพของสหกรณ์ในการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของสมาชิกต่อไป