พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัย การส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมและพัฒนาการประมง ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมง
18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัย การส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมและพัฒนาการประมง ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมง
เวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัย การส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมและพัฒนาการประมง ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมง ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยมี ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร , นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประมง , นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ อาคารสำนักงานอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โดยในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ จำนวน 2 ฉบับ คือ
1) บันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านการวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร ระหว่างอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทางวิชาการร่วมกันด้านการวิจัยและการส่งเสริมการเกษตร โดยการขยายผลโครงการวิจัยทางด้านการเกษตรที่มีศักยภาพสู่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่การเกษตร เพื่อทำวิจัยและพัฒนาร่วมกันในหัวข้อเรื่องที่จะใช้แก้ปัญหาทางการเกษตร และเพื่อพัฒนาบุคลากรทั้งสองฝ่าย มีกำหนดระยะเวลา 4 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ
2) บันทึกความเข้าใจ เรื่อง การพัฒนาวิชาการด้านวิจัย การส่งเสริมการประมง ระหว่างอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และอธิบดีกรมประมง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทางวิชาการร่วมกันด้านการวิจัย การส่งเสริมและพัฒนาการประมง และขยายผลโครงการวิจัยทางด้านการประมงที่มีศักยภาพสู่การใช้ประโยชน์ในพื้นที่การประมง และพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อทำวิจัยและพัฒนาร่วมกันในหัวข้อเรื่องที่จะใช้แก้ปัญหาทางการประมง และพัฒนาบุคลากรทั้งสองฝ่าย มีกำหนดระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการทำ MOU ร่วมกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภาคเกษตรกรรมของไทย ต้องมีการยกระดับด้านการเกษตร มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ให้เต็มที่ นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังให้ความสำคัญกับงานวิจัยที่จะสามารถนำมาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าทางการเกษตรได้
สำหรับการลงนามในวันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของภาคการเกษตรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งภาคเกษตรเรามีความสำคัญ หากภาคการเกษตรดี เศรษฐกิจในประเทศก็จะเข้มแข็งไปด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในช่วงโควิด-19 ที่ภาคการเกษตรนั้นได้รับผลกระทบน้อยสุด และยังเป็นภาคที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ประเทศไทยจึงต้องมีการพัฒนาทั้งในเรื่องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการส่งเสริม พัฒนา ต่อยอด และเพิ่มมูลค่าต่อไปในอนาคต