10 กันยายน 2563 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงแปรสภาพโคมาตรฐาน ภายในพื้นที่ของสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงแปรสภาพโคมาตรฐาน ภายในพื้นที่ของสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมี ผศ. ดร.ชัยณรงค์ คันธพนิต ที่ปรึกษาสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด นายสุรชัย เปี่ยมคล้า ผู้จัดการสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ ซึ่งโรงงานแปรสภาพโคมาตรฐาน ได้รับงบประมาณจากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (FTA) โครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูง ทดแทนการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ โดยรองรับผลผลิตโคขุนคุณภาพสูงจากเกษตรกรสมาชิกของสหกรณ์ฯ และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อทั่วไป ซึ่งเป็นโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูง ดำเนินการโดยสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด เป็นโรงแปรรูปโคมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ มีการรับรองมาตรฐาน อย. GMP HACCP และ EST เพื่อการส่งออก และผ่านการรับรองมาตรฐาน HALAL (ฮาลาล) แล้ว ซึ่งสหกรณ์จะรับโคที่ขุนมาจากฟาร์มเกษตรกรที่ได้รับมาตรฐาน GFM และ GAP และฟาร์มปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) มีกำลังการผลิต 20 - 30 ตัว/วัน มีนโยบายมุ่งผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค และใส่ใจในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ภายใต้แบรนด์ “KU Beef” มีสโลแกนว่า “เนื้อนุ่ม จากโคหนุ่ม ไขมันน้อย” โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยทางอาหาร หรือ Food Safety โคขุนทุกตัวแปรสภาพที่โรงแปรสภาพที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายปนเปื้อน โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง ทุกขั้นตอนการผลิตจนถึงการส่งมอบถึงมือลูกค้าและสามารถควบคุมและตรวจย้อนกลับได้ (Traceability) ในทุกขั้นตอน
สหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2536 โดย ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 27 ปี มีสมาชิกผู้เลี้ยงโคเนื้อ จำนวน 202 ราย สมาชิกทุกรายได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มจากกรมปศุสัตว์ มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 55.5 ล้านบาท สหกรณ์ฯ ดำเนินธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจรวบรวมโค (กลางน้ำ) ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้า มาจำหน่าย และธุรกิจแปรรูป ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับอุปกรณ์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ปี 2561 เพื่อให้สหกรณ์นำไปจัดซื้ออุปกรณ์แปรรูปต่าง ๆ เช่น เครื่องบรรจุสุญญากาศ แบบ Skin Pack เครื่องสไลด์เนื้อ เครื่องสไลด์เนื้ออัตโนมัติ อุปกรณ์ล้างเครื่องมือ เลื่อยสายพานตัดกระดูก รถห้องเย็น 4 ล้อ พร้อมตู้และเครื่องทำความเย็น และห้องเย็นสำเร็จรูปพร้อมเครื่องทำความเย็น เป็นต้น ซึ่งการที่สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำให้สหกรณ์ฯ สามารถผลิตเนื้อแปรรูปที่มีมาตรฐาน คุณภาพเกรดพรีเมี่ยม รวมถึงยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา เพิ่มมูลค่าเนื้อโคขุน และมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันสหกรณ์ได้จำหน่ายเนื้อโคขุนในรูปแบบของชิ้นส่วนใหญ่ ชิ้นส่วนย่อย และผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคขุน เช่น เนื้อแดดเดียว ไส้กรอก เบอร์เกอร์ และเนื้อเสียบไม้ โดยสหกรณ์ฯ ได้เชื่อมโยงการตลาดผ่านเครือข่ายสหกรณ์ในการเป็นศูนย์กลางการรวบรวม และส่งจำหน่าย นอกจากนี้ ยังส่งเนื้อโคไปจำหน่ายยังห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหาร และแผงค้าเนื้อต่าง ๆ รวมทั้งเปิดจำหน่ายที่ร้าน Ku Beef Butcher ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย
{gallery}10sep2563_1{/gallery}