13 พฤษภาคม 2563 นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวปรานอม จันทร์ใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจข้าวของสหกรณ์ ให้การต้อนรับ นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) นางสาวลัดดา วิริยางกูร ที่ปรึกษาโครงการฯ และคณะ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวปรานอม จันทร์ใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจข้าวของสหกรณ์ ให้การต้อนรับ นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) นางสาวลัดดา วิริยางกูร ที่ปรึกษาโครงการฯ และคณะ ณ ห้องประชุม ชั้น 6 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร ในโอกาสขอเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Thai Rice NAMA) และนำเสนอแนวคิดจะนำร่องสหกรณ์ และขยายผลในระบบสหกรณ์ในการปลูกข้าวแบบลดโลกร้อน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการ Thai Rice NAMA และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อคัดเลือกพื้นที่สหกรณ์ต้นแบบเพื่อเชื่อมโยงกับแปลงสาธิตของโครงการฯ เตรียมพื้นที่ สร้างโมเดลการทำนาแบบลดโลกร้อนให้เกิดความรู้ อบรมผู้ประกอบการและมีกิจกรรมส่งเสริมเพื่อผลิตข้าวยั่งยืนและข้าวรักษ์โลก โดยเน้นที่สหกรณ์ภาคการเกษตรที่มีความพร้อมเพื่อนำร่อง มีการนำระบบสหกรณ์มาบริหารจัดการ ร่วมพัฒนายุทธศาสตร์การตลาดข้าวยั่งยืนและข้าวรักษ์โลก โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1. ต้นน้ำ การผลิตข้าวยั่งยืนและข้าวรักษ์โลก มีการจัดทำแปลงสาธิต จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ พัฒนาศักยภาพเกษตรกรผ่านการดำเนินงานแบบกลุ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมและเกษตรกรต้นแบบเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยใช้เครือข่ายสหกรณ์มาช่วยขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น รวมถึงพัฒนาผู้บริการต้นแบบเทคโนโลยีการผลิตข้าวยั่งยืนและข้าวรักษ์โลก เช่น การปรับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ เพื่อให้บริการแก่สมาชิกเกษตรกรภายในกลุ่มและพื้นที่ใกล้เคียง 2. กลางน้ำ การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังเก็บเกี่ยว มีการเชื่อมโยงและบูรณาการบริการเกี่ยวข้าวและบริการจัดการฟางและตอซัง 3. ปลายน้ำ การเชื่อมโยงการตลาด แนวทางการสนับสนุนสหกรณ์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าข้าว เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รวมถึงการเชื่อมโยงตลาด โดยได้มีการเสนอความเห็นให้คัดเลือกสหกรณ์การเกษตรที่จะนำร่องก่อน 2 จังหวัด คือ จังหวัดชัยนาท และจังหวัดสุพรรณบุรี เน้นบูรณาการขับเคลื่อนหน่วยงาน นำศักยภาพที่องค์กรมีมาขยายผลต่อยอด ทำความเข้าใจกับสหกรณ์ในจังหวัด เชิญผู้จัดการสหกรณ์ กรรมการสหกรณ์ ถึงข้อมูล โอกาสและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ มีกิจกรรมระหว่างเกษตรกรกับหน่วยงานภาคี สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรมาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งคาดว่าผลที่ได้ทางเศรษฐกิจจะคุ้มค่า ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมหารือถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 ต่อไป
ทั้งนี้ โครงการ Thai Rice NAMA เป็นโครงการนำร่องและพัฒนาแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจกในการทำนา มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการทำนาในปัจจุบันไปสู่การทำนาแบบยั่งยืนที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยได้ มุ่งเน้นเกษตรกร 100,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ชลประทาน 6 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี และลุ่มน้ำใกล้เคียง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดผลประโยชน์แก่เกษตรกรทั้งการทำนาแบบลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการผลิตข้าวที่ได้มาตรฐานการผลิตข้าวที่ยั่งยืน (GAP++) เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจการให้บริการเทคโนโลยีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้มีมาตรการจูงใจที่สนับสนุนให้ภาคการผลิตข้าวทั้งในระบบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน 5 ปี เพื่อการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีในการดำเนินงานให้เป็นไปตามที่เป้าหมายกำหนด รวมทั้งส่งเสริมการใช้พื้นที่ให้สม่ำเสมอ ลดการใช้น้ำ มีการจัดการปริมาณพื้นที่ให้เหมาะสมโดยใช้เลเซอร์ รวมทั้งการจัดการตอซัง ลดการเผา
{gallery}13may2563{/gallery}