12 พฤษภาคม 2563 นายวิวัตห์ชัย พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมทางไกล (Video Conference) ชี้แจงโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกร เพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19
นายวิวัตห์ชัย พันธุ์วา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมทางไกล (Video Conference) ชี้แจงโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกร เพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 โดยมีนายชาย คงแก้ว ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร ผู้อำนวยการกลุ่ม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 226 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร พร้อมถ่ายทอดสัญญาณไปยังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีวาระสำคัญในการหารือ เรื่องแผนการปฏิบัติงานตามโครงการสนับสนุนการกระจายผลไม้ของสถาบันเกษตรกร เพื่อรองรับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ วงเงิน 45.037 ล้านบาท สำหรับนำไปช่วยเหลือการระบายผลผลิตให้กับสหกรณ์ชาวสวนผลไม้ต้นทาง โดยจัดสรรเป็นค่าบริหารจัดการกิโลกรัมละ 1 บาท และชดเชยค่าขนส่งให้กิโลกรัมละ 2 บาท ส่วนสหกรณ์ปลายทางที่เป็นคู่ค้าซึ่งมีทั้งสหกรณ์ที่มีศูนย์กระจายสินค้าและสหกรณ์ขนาดใหญ่ในระดับอำเภอ ที่รับซื้อผลไม้จากต้นทางไปกระจายสู่ผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ จะได้รับค่าบริหารจัดการกิโลกรัมละ 50 สตางค์ เป็นค่าขนส่ง ค่าจ้างคนงานและจัดซื้อถุงใส่ผลไม้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้กับสหกรณ์ นอกจากนี้ยังมีงบประมาณ 4.087 ล้านบาท ที่สนับสนุนเรื่องบรรจุภัณฑ์ โดยให้สหกรณ์ที่รวบรวมผลไม้นำไปจัดซื้อตะกร้า 191,700 ใบ เพื่อขนส่งผลไม้ไปสู่ผู้บริโภคปลายทางได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการสอบถามไปยังสหกรณ์จังหวัดที่อยู่ในแหล่งผลิตผลไม้ภาคตะวันออก ซึ่งผลผลิตมังคุด เงาะและทุเรียนทยอยออกสู่ตลาดและคาดว่าจะมีปริมาณมากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนในภาคเหนือ สหกรณ์ในจังหวัดพะเยา ลำพูน และเชียงใหม่ เริ่มมีการรวบรวมลิ้นจี่จากเกษตรกรเพื่อกระจายสู่ตลาดแล้วในขณะนี้ ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแผนจัดสรรเงินอุดหนุนโครงการฯ ให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรซึ่งอยู่ในแหล่งผลิตผลไม้ 18 จังหวัด ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ เป็นสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรจากภาคตะวันออก 14 แห่ง ภาคใต้ 46 แห่ง และภาคเหนือ 23 แห่ง เป้าหมายการรวบรวมและการกระจายผลผลิต จำนวน 11,700 ตัน แบ่งเป็นมังคุด 8,500 ตัน และลำไย 3,200 ตัน และรายงานสถานการณ์สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโควิด - 19 รวมทั้งได้หารือในประเด็นอื่นๆ เช่น กระบวนการจัดส่งผลไม้ไปสู่รตลาดปลายทาง การกำหนดราคาซื้อขายร่วมกันระหว่างสหกรณ์ต้นทางกับปลายทาง โดยขอให้คำนึงถึงราคาตามกลไกของตลาด และผู้บริโภคปลายทางที่จะได้บริโภคผลไม้คุณภาพของสหกรณ์ในราคาที่เป็นธรรมด้วย เพื่อรักษาเสถียรภาพทั้งในด้านปริมาณและราคาผลผลิตไม่ให้ตกต่ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินโครงการ โดยทุกฝ่ายได้ร่วมกันวางแผนช่องทางการจำหน่ายผลไม้ภายในประเทศผ่านเครือข่ายสหกรณ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเน้นย้ำให้สหกรณ์ชาวสวนผลไม้สนับสนุนให้สมาชิกผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งระยะเวลาในการรวบรวมผลไม้ของสหกรณ์และกระจายสินค้าสู่ตลาด จะดำเนินการในระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2563 นี้
{gallery}12may2563{/gallery}