29 มกราคม 2563 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานเปิดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ประจำปี 2563
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานเปิดงาน “เทศกาลโคนมแห่งชาติ” ประจำปี 2563 พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริเวณงาน โดยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติปีนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมจัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอความก้าวหน้าในการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้ยกความสำเร็จ “ไชยปราการโมเดล” ของสหกรณ์โคนมไชยปราการ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ ว่าเป็นสหกรณ์โคนมที่ได้พัฒนาฟาร์มของสมาชิกทุกราย จนได้รับการรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์ หรือ GAP ครบทุกฟาร์ม 100 % สำหรับในปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์มีภารกิจในการดูแลส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ 110 แห่งในพื้นที่ 37 จังหวัด สมาชิก 21,295 ราย ปริมาณโคนม 435,088 ตัว เป็นฟาร์มโคนมที่ได้มาตรฐาน GAP 4,233 ฟาร์ม ปริมาณน้ำนมดิบที่สหกรณ์รวบรวมได้ 2,163.61 ตัน/วัน หรือคิดเป็น 60.98 % ของปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศ สหกรณ์มีโรงงานแปรรูปนม 37 แห่ง ได้แก่ โรงงานนม UHT 10 แห่ง โรงงานนมพาสเจอร์ไรส์ 26 แห่งและโรงงานนมผง 1 ซึ่งสหกรณ์มีช่องทางจำหน่ายนม โดยผลิตเป็นนมพาณิชย์ 372.742 ตัน/วัน และผลิตเป็นนมโรงเรียน 1,051.847 ตัน/วัน
ปัจจุบัน กรมฯ ได้ส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ ทั้งด้านการบริหารจัดการองค์กร พัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาด สนับสนุนเงินทุนเพื่อพัฒนาฟาร์มสู่มาตรฐาน GAP ภายใต้ยุทธศาสตร์โคนมและผลิตภัณฑ์นม มีแผนปฏิบัติการด้านโคนม ได้วางเป้าหมายให้ฟาร์มโคนมได้รับมาตรฐาน GAP 100% ในปี 2565 ปัจจุบันมีฟาร์มโคนมของสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศมี จำนวน 12,457 ฟาร์ม ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน GAP แล้ว จำนวน 4,233 ฟาร์ม คิดเป็น 33.98% กรมส่งเสริมสหกรณ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการผลิตน้ำนมโคในสหกรณ์ จึงกำหนดแผนในการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของสมาชิกสหกรณ์ให้ผ่านมาตรฐาน GAP โดยการผลักดันให้สหกรณ์จัดทำแผนร่วมกับสมาชิกสหกรณ์ในการพัฒนาฟาร์ม และสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สหกรณ์นำไปพัฒนาฟาร์มโคนมของสมาชิกที่เหลือให้ผ่านมาตรฐาน GAP โดยในปี 2563 ตั้งเป้าหมายผ่านมาตรฐาน GAP 50% ในปี 2564 ผ่านมาตรฐาน 80% ในปี 2565 ต้องผ่านมาตรฐานทุกฟาร์มครบ 100 % ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการฟาร์ม เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมส่งผลให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพการเลี้ยงโคนม มีแผนส่งเสริมให้สหกรณ์เป็นองค์กรธรรมาภิบาล มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และวางแผนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการส่งเสริมสหกรณ์โคนมให้มีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ด้วยหลักคิด "ชุมชนผลิต ชุมชนบริโภค" โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ และบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ได้ให้การสนับสนุนการเก็บข้อมูลด้วยแอพพลิเคชั่น เชื่อมโยงจากฟาร์มสู่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบและโรงงานแปรรูป เพื่อใช้สำหรับการวางแผนบริหารจัดการน้ำนมดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กรมฯ ได้มีการสร้างความยั่งยืนในอาชีพการเลี้ยงโค โดยพัฒนาศักยภาพทายาทเกษตรกรโคนม และยุวเกษตรกร ให้ได้รับความรู้ทั้งการจัดการฟาร์มด้วยเทคโนโลยี มีการศึกษาดูงานฟาร์มต้นแบบเพื่อนำไปปรับใช้ในฟาร์มของตนเอง รวมทั้งได้ลงนามความร่วมมือกับจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ผลิตบัณฑิตสาขาโคนม ตามโครงการความร่วมมือทางการศึกษาเพื่อสานต่ออาชีพพระราชทาน รวมทั้ง กรมฯได้จัดจ้างสถาบันอาหารมาเป็นที่ปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สหกรณ์โคนมเชียงราย จำกัด ได้มีแนวคิดในการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิมเพื่อเพิ่มมูลค่า และลดปัญหานมล้นตลาด เป็นน้ำนมเวย์ (Whey) ซึ่งเวย์นี้เป็นผลพลอยได้จากการผลิต Milk Curd ของสหกรณ์ที่ส่งโรงงานผลิตชีส เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและช่วยลดการสูญเสียในระบบการผลิตด้วย
งานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 9 กุมภาพันธ์ 2563 ภายใต้แนวคิด "รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม และสืบสานพระราชปณิธาน พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยยุคใหม่ เพื่อก้าวสู่แบรนด์นมแห่งชาติ จัดขึ้นภายในพื้นที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย บริเวณเชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กิจกรรมในงานที่สำคัญ อาทิ สัมมนาวิชาการ, นิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร, การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนมโดยได้รับความร่วมมือจาก ภาครัฐและภาคเอกชน บูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ๆ การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่างๆ การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่างๆ การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค ชมสาธิตการรีดนมโค และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค รวมทั้งมีการจัด Thai-Denmark Milksic Festival ครั้งที่ 3 อีกด้วย
{gallery}29jan2563_2{/gallery}