3 มกราคม 2563 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานแถลงข่าว “นโยบายแนวทางการขับเคลื่อนภาคเกษตรไทย ปี 2563”
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานแถลงข่าว “นโยบายแนวทางการขับเคลื่อนภาคเกษตรไทย ปี 2563” พร้อมด้วย ร้อยเอก ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการนี้ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม 134 – 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร
สำหรับนโยบายที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะขับเคลื่อนในปี 2563 นั้น มีดังนี้
1.การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ซึ่งในปี 2563 คาดว่าจะเกิดปัญหาภัยแล้ง ซึ่งการจัดการน้ำทั้งระบบจะช่วยแก้ ปัญหา ลดภาวะวิกฤต ลดความเสียหายของพี่น้องประชาชน โดยให้มีการสร้างแหล่งน้ำเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ซึ่งที่เน้นมากที่สุดคือ การเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำแบบแก้มลิงในฤดูฝน ซึ่งเป็นการช่วยเก็บกักน้ำในส่วนของลุ่มน้ำต่างๆ
2.การส่งเสริมเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ ให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีความปลอดภัย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการขับเคลื่อนส่งเสริมการเกษตรด้วยศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีมาตรการ 3 ส่วน ในการทำเกษตรอินทรีย์ คือ ลด ละ เลิก ลดการใช้สารเคมี ไม่ใช้สารอันตรายในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้และ รณรงค์ให้เลิกพัฒนาสารเคมีชนิดต่างๆ อาจจะมีการพัฒนาสารชีวพันธุ์ต่างๆที่จะมาทดแทนสารเคมี อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้เครื่องจักรกลทดแทนการใช้สารเคมี โดยได้ดำเนินการพร้อมกันทุกกระทรวง
3.การใช้ระบบการตลาดนำการผลิต การแก้ไขปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งต้องร่วมมือในการแก้ไขปัญหา หาช่องทางการตลาดเพิ่มโดยให้เน้นไปที่ตลาดออนไลน์ ซึ่งจะทำงานกันทุกภาคส่วน
4.การลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตเพื่อช่วยพี่น้องเกษตรกรทั้งหมด ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยที่ผลิตเอง เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น ปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ ส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทน ชีวมวล
5.การบริหารจัดการการประมงอย่างยั่งยืน ไม่ทำผิดกฎหมาย การปรับปรุงการสั่งเกณฑ์ใบอนุญาตทั่วไป จัดตั้งกองทุนประมง หาตลาดให้พี่น้องผู้ประกอบการ ให้มีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำ ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด
6.การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้พี่น้องเกษตรกร ซึ่งคาดาการณ์ว่าปีนี้จะเกิดภาวะภัยแล้ง ซึ่งได้มีการจัดตั้งศูนย์ 7 ศูนย์ ที่ให้บริการพี่น้องประชาชนทั้งหมด
7.เรื่องการตั้งจัดทำข้อมูลสารสนเทศเกษตรแห่งชาติ (Big data) ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตร (Aic) ซึ่งมีความสำคัญมาก ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกหน่วยงานจะต้องมีข้อมูลที่อยู่บนฐานเดียวกันทั้งหมด เพื่อความสะดวกให้ประชาชนจะเข้ามาสอบถามข้อมูล หรือประสานงานต่างๆ และตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรกรรมทั้ง 77 จังหวัด ให้เข้าถึงนวัตกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งศูนย์พัฒนาเรียนรู้สินค้าเกษตร ส่งเสริมการเลี้ยงหม่อนไหม
8.ยางพารา สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐใช้ผลิตภัณฑ์อย่างพาราเพิ่มมากขึ้น โดยมีการทำ MOU กับกระทรวงต่างๆ ซึ่งสามารถนำยางพาราใช้ในภารกิจต่างๆได้ ซึ่งทั้งหมดคือนโยบายที่จะขับเคลื่อนในปี 2563 นี้
{gallery}03jan2563_6{/gallery}