ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 49 ของสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด
27 พฤศจิกายน 2562 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 49 ของสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด พร้อมทั้ง นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยมสหกรณ์ดังกล่าวโดยมี นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายนคร ปราชญ์นคร ประธานกรรมการสหกรณ์และสมาชิก ให้การต้อนรับ ณ ลานเอนกประสงค์ สำนักงานโรงงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 49 ของสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด พร้อมทั้ง นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยมสหกรณ์ดังกล่าวโดยมี นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายนคร ปราชญ์นคร ประธานกรรมการสหกรณ์และสมาชิก ให้การต้อนรับ ณ ลานเอนกประสงค์ สำนักงานโรงงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
สำหรับการประชุมใหญ่ในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าการประชุมในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการร่วมกันพิจารณาระเบียบวาระต่างๆ การร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และให้ข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งวางแผนปรับปรุงฟื้นฟูสหกรณ์และอาชีพให้กับสมาชิก ซึ่งสหกรณ์จะต้องวางแนวทางการบริหารงานเพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกในปีต่อไป และเพื่อให้สหกรณ์เป็นสถาบันที่ให้บริการแก่สมาชิกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น วิธีการสหกรณ์เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคมของประเทศให้ดีขึ้นและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนตามนโยบายภาครัฐ รัฐบาลจึงได้พยายามเข้ามามีบทบาทสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์มากขึ้น เช่น เกษตรอินทรีย์ เกษตรแปลงใหญ่ ทฤษฎีใหม่ เพื่อให้สหกรณ์ช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างแท้จริงตามหลักสหกรณ์ ซึ่งรูปแบบการดำเนินงานของสหกรณ์ มุ่งเน้นการดูแลความเป็นอยู่ของสมาชิก สมาชิกเป็นทั้งเจ้าของสหกรณ์ และเป็นผู้ใช้บริการในธุรกิจต่าง ๆ ของสหกรณ์อย่างครบวงจร ซึ่งนับว่าสมาชิกสหกรณ์มีส่วนสำคัญต่อการดำเนินงานและความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจสหกรณ์
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบโล่รางวัลสมาชิกดีเด่นในแต่ละประเภท แบ่งเป็น 1.รางวัลสมาชิกที่ชำระหนี้ตรงตามสัญญาสม่ำเสมอ 2.รางวัลสมาชิกที่มียอดถือหุ้นมากที่สุด 3.รางวัลสมาชิกที่ถือหุ้นระหว่างปีมากที่สุด 4.รางวัลสมาชิกที่ทำธุรกิจกับฝ่ายจัดการสินค้าสหกรณ์มากที่สุด 5.รางวัลสมาชิกที่จำหน่ายปาล์มให้สหกรณ์สม่ำเสมอ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ซึ่งกลุ่มสมาชิกของสหกรณ์ได้นำสินค้ามาจำหน่าย เช่น สินค้าจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์ สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตปาล์มน้ำมัน RSPO ท่าแซะ การอบรมให้ความรู้กับสมาชิก กิจกรรมเรียนรู้ธุรกิจสินเชื่อ เป็นต้น
ทั้งนี้ สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด จังหวัดชุมพร ก่อตั้ง เมื่อ พ.ศ. 2506 ได้รับจดทะเบียน เป็นสหกรณ์ประเภทสหกรณ์นิคม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2514 ชื่อว่า " สหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด" ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 3,994 คน ทุนดำเนินงาน 676,019,002.28 บาท ปริมาณผลผลิต จำนวน 167,027,090 กิโลกรัม ปริมาณการส่งออก จำนวน 5,957,974 กิโลกรัม ปริมาณการแปรรูป 161,213,963 กิโลกรัม น้ำมันดิบ จำนวน 28,981,189 กิโลกรัม เมล็ดในปาล์ม จำนวน 8,561,180 กิโลกรัม กะลาปาล์ม จำนวน 7,080,270 กิโลกรัม ทะลายเปล่า จำนวน 34,114,210 กิโลกรัม เส้นใยปาล์ม จำนวน 351,020 กิโลกรัม ปริมาณแก๊ส จำนวน 4,540,360 หน่วย และมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 484,405,965 บาท เมล็ดในปาล์ม 79,501,600 บาท กะลาปาล์ม 12,765,515 บาท ทะลายเปล่า 4,676,998 บาท เส้นใยปาล์ม 192,756.40 บาท และขายไฟฟ้า 15,050,900.00 บาท
โดยสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพื่อก่อสร้างโรงคลุมลานสต็อคปาล์ม จำนวน 4,970,000 บาท สหกรณ์ออกเงินสมทบ จำนวน 497,000 บาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น สหกรณ์ได้มีแผนในการส่งเสริมสมาชิกของสหกรณ์ โดยจัดทำโครงการ จำนวน 2 โครงการ คือโครงการเปลี่ยนพันธุ์ปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนต้นปาล์มเดิม และโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มและกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากไบโอแก๊ส
สหกรณ์ฯ ได้ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งการสินเชื่อและจัดหาแหล่งเงินทุนให้สมาชิกกู้ยืม จัดหาปัจจัยการผลิตแก่สมาชิก จัดหาสินค้ามาจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค การถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการและส่งเสริมการเกษตร และธุรกิจรวบรวมผลผลิตโดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน และยังได้สร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำทิ้งของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ซึ่งนอกจะช่วยแก้ปัญหาให้แก่สมาชิกแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับสหกรณ์ และเป็นการลดการนำเข้าพลังงานของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
{gallery}27nov2562_1{/gallery}