22 พฤศจิกายน 2562 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานประชุมทางไกล (Conference) ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ ปีการผลิต 2562/63 ไปยัง 33 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานประชุมทางไกล (Conference) ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ ปีการผลิต 2562/63 ไปยัง 33 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมีผู้ตรวจราชกรม ผู้อำนวยการกอง/กลุ่ม ผู้แทนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส์ จำกัด บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด และบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรับฟังผลการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวในปีที่ผ่านมา และแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ ปีการผลิต 2562/63
โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ลดพื้นที่การทำนาปรังหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ต้นทุนการผลิตต่ำ และให้รายได้เฉลี่ยต่อไร่สูงกว่าการปลูกข้าว ซึ่งในฤดูกาลผลิต ปีนี้ มีสหกรณ์ประสงค์เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา 156 สหกรณ์ ใน 33 จังหวัด สมาชิก 21,392 ราย พื้นที่ 156,230 ไร่ เป็นสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการรวบรวมและปรับปรุงคุณภาพ จำนวน 23 แห่ง สหกรณ์ที่มีศักยภาพพร้อมเป็นจุดรวบรวม จำนวน 77 แห่ง และสหกรณ์ที่ไม่พร้อมจะเป็นจุดรวมแต่ประสานเอกชนตั้งจุดรับซื้อ จำนวน 28 แห่ง โดยกำหนดราคารับซื้อเท่ากับปีที่ผ่านมา เป็นข้าวโพดแห้งความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคา ณ หน้าโรงงาน กิโลกรัมละ 8 บาท หากเกษตรกรขายเป็นข้าวโพดฝักหรือข้าวโพดที่มีความชื้นสูงกว่านั้น จะรับซื้อโดยให้ตามคุณภาพและความชื้น
ทั้งนี้ แนวทางในการดำเนินการนั้น กรมฯได้กำหนดแนวทางการดำเนินการแบบครบวงจร และเน้นย้ำว่าพื้นที่เพาะปลูกจะต้องมีน้ำเพียงพอตลอดฤดูกาล ซึ่งเกษตรกรควรลงมือปลูกก่อนวันที่ 15 มกราคม 2563 พร้อมทั้งได้ประสานกับบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารสัตว์ส่งนักวิชาการมาให้ความรู้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มเตรียมการปลูก เช่น การเตรียมพื้นที่ เตรียมดิน การให้น้ำ การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม การป้องกันและกำจัดโรคแมลงก่อนได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งควบคุมระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม โดยสหกรณ์จะทำหน้าที่ในการรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกเพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งแต่ละปีอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในประเทศ มีความต้องการใช้ข้าวโพดเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์รวมปริมาณ 8.5 ล้านตัน ขณะที่เกษตรกรในประเทศผลิตได้เพียง 4.5 – 5 ล้านตันเท่านั้น ทำให้ความต้องการข้าวโพดของตลาดในประเทศยังมีเพียงพอรองรับการผลิตจากเกษตรกรอีกกว่า 3.5 ล้านตัน
สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังได้จัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 100 ล้านบาท เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ให้สหกรณ์กู้ยืมไปจัดหาปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ให้กับสมาชิก ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์แจ้งความประสงค์ขอกู้เงิน กพส.แล้ว จำนวน 74 แห่ง จากนั้นได้รับฟังปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา จากสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการในจังหวัดต่าง ๆ เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน พบว่าปัญหาอุปสรรคที่สำคัญคือ เกษตรกรยังขาดองค์ความรู้ในการปลูกข้าวโพด น้ำไม่เพียงพอทำให้ผลผลิตไม่มีคุณภาพ และโรคหนอนกระทู้ระบาด ซึ่งทางบริษัทเอกชน ได้มีการจัดทำคู่มือการปลูก ให้แนะนำ การป้องการ กำจัดหนอนกระทู้ เป็นหนังสือและ VCD เพื่อลงพื้นที่ไปให้ความรู้แก่เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ด้วย
โดยอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เน้นย้ำในเรื่องการใช้เครื่องจักรกลในการดูแลพื้นที่เพาะปลูกของสมาชิกสหกรณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งแต่การเริ่มปลูก ลดการใช้สารเคมี เพื่อคุณภาพของข้าวโพดในการผลิต ให้ขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องเกษตรกร รวมถึงเรื่องการจัดหาตลาดและการจัดการน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการขับเคลื่อนโครงการนี้
{gallery}22nov2562_1{/gallery}