25 ตุลาคม 2562 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รักษาการตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมและรับฟังนโยบายดังกล่าว
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รักษาการตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมและรับฟังนโยบายดังกล่าว
สำหรับการมอบนโยบายในครั้งนี้ ผู้แทนหน่วยงานระดับพื้นที่ได้นำเสนอข้อมูลด้านการเกษตร ทั้งการปลูกพืชผักปลอดสารพิษและพืชเศรษฐกิจ จำนวนพื้นที่เพาะปลูก พื้นที่ชลประทาน ปริมาณผลผลิตด้านการเกษตรชนิดต่าง ๆ ข้อมูลด้านตลาดและแหล่งจำหน่ายผลผลิตของเกษตร และข้อมูลของสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตในจังหวัดอุทัยธานี
โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำในเรื่องการส่งเสริมเกษตรกรทำเกษตรแบบปลอดภัย ลดการใช้สารเคมี และปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรแบบอินทรีย์ การพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพได้มาตรฐานเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร การปลูกพืชให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มุ่งเน้นการตลาดนำการผลิต โดยขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานระหว่างกัน ร่วมกันกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงาน ทั้งระดับพื้นที่และระดับกรม และร่วมกันเป็นกลไกการพัฒนาและและสนับสนุนภาคการเกษตรและสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง
โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้นำเสนอนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยใช้สหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบาย เมืองเกษตรปลอดภัย ซึ่งจะแบ่งกลุ่มของสหกรณ์เป็นระดับชั้น 1 และชั้น 2 พร้อมทั้งจะร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร ในการควบคุมและตรวจสอบการขายปัจจัยการผลิต ทั้งปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชและสารเคมีในร้านจำหน่ายของสหกรณ์การเกษตร และจะมีมาตรการสนับสนุนสหกรณ์ที่ยกเลิกการจำหน่าย 3 สารเคมีอันตราย โดยจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้สหกรณ์นำไปช่วยเหลือดูแลสมาชิกที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรอินทรีย์ และจัดหาเครื่องจักรกลมาบริการและดูแลผลผลิตของสมาชิก เช่น อ้อย ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง ข้าวโพด เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ กรมฯจะเร่งสำรวจข้อมูลสหกรณ์ที่มีความพร้อมและต้องการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเพื่อนำเสนอรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาต่อไป
{gallery}25oct2562_2{/gallery}