23 กันยายน 2562 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด ประชาชนจิตอาสา เดินทางไปยังวัดฉิมพลีวัน บ้านงิ้วเหนือ หมู่ 2 ตำบลพลับพลา อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายวิเชียร สุดาทิพย์ นายอำเภอเชียงขวัญ เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
ในการนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้พบปะและให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกร และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และได้มอบถุงยังชีพ ของใช้ที่จำเป็น ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 1,500 ชุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดร้อยเอ็ด นครราชสีมา ชัยภูมิ สงขลา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ และมอบทุนให้กับวัด จำนวน 5 แห่ง โรงเรียน จำนวน 5 แห่ง มอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จำนวน 400 ก้อน ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ จัดให้มีหน่วยพยาบาลรักษาสัตว์ มอบต้นกล้าพันธุ์ไม้ และตั้งจุดให้บริการซ่อมแซมเครื่องมือ เครื่องจักรกลทางการเกษตรให้กับเกษตรในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทันทีหลังน้ำลด
โอกาสนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ล้างทำความสะอาด, เก็บขยะ เศษใบไม้ บริเวณวัดน้อยบ้านงิ้ว หมู่ 2 ตำบลพลับพลา อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด และได้มีการฉีดสารจุลินทรีย์ชีวภาพลงในพื้นที่ทุ่งนาที่ยังมีน้ำท่วมขัง เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นจากน้ำเน่าเสีย และป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำท่วม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บุคลากรทุกภาคส่วนในขบวนการสหกรณ์ได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อส่วนรวม สร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งมีการสำรวจปัญหาและสำรวจความต้องการของเกษตรกรผู้ประสบภัย ให้การช่วยเหลือ ฟื้นฟู และดูแลหลังน้ำลด ทั้งด้านที่อยู่อาศัย ฟื้นฟูอาชีพ และด้านต่างๆ ที่จำเป็น โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ การสำรวจเกษตรกร การเยียวยาด้านพืชและสัตว์ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับมอบหมายได้จัดตั้งจุดบริการซ่อมเครื่องจักรกลให้พี่น้องเกษตรกร เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย การฟื้นฟูอาชีพให้เกษตรกร โดยส่งเสริมให้ปลูกพืชระยะสั้น เพื่อให้เกิดรายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมกันสนับสนุนพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ช่วยเหลือพันธุ์ข้าวต่าง ๆ และให้การสนับสนุนทั้งในด้านการผลิต และการตลาด
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการบรรเทาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ของ ธ.ก.ส.และสหกรณ์การเกษตร ซึ่งมาตรการหลักที่จะช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลด ได้ขอความร่วมมือให้สหกรณ์ช่วยดูแลเรื่องการขยายเวลาการชำระหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกสหกรณ์ พร้อมทั้งจัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ให้สหกรณ์กู้ยืมปลอดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ปี เพื่อนำไปให้สมาชิกกู้ยืมไปเป็นทุนประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งกรมฯได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและเกษตรกรทั้ง 21 จังหวัด จนกว่าจะสามารถผ่านพ้นจากสภาวะที่วิกฤตนี้ไปได้และกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติต่อไป
{gallery}23sep2562_4{/gallery}