5 สิงหาคม 2562 นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการแปลงใหญ่ในสหกรณ์ ณ ห้องประชุม 226 อาคาร 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร
นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการแปลงใหญ่ในสหกรณ์ ณ ห้องประชุม 226 อาคาร 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร ผู้แทนสำนักงานสหกรณ์จังหวัด 16 จังหวัด ผู้แทนสหกรณ์ภาคการเกษตร 25 แห่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทาง และรับฟังความคิดเห็นของสหกรณ์ในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้ขับเคลื่อนในสหกรณ์ โดยในปีงบประมาณ 2563 กรมส่งเสริมสหกรณ์จะสนับสนุนงบประมาณในการขับเคลื่อนเกษตรแบบแปลงใหญ่ การพัฒนาแปลงเกษตรกรให้ได้รับมาตรฐาน GAP รวมไปถึงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้กับสหกรณ์ในการรวบรวมและจัดเก็บผลผลิตจากสมาชิก ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการพัฒนาภาคการเกษตรในการรักษาเสถียรภาพสินค้าเกษตรและรายได้ให้กับเกษตรกร ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ รวมถึงการเชื่อมโยงไปถึงผู้ประกอบการภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ดังนี้
1.การพัฒนาระบบการผลิตและการบริหารจัดการแปลงใหญ่ โดยมีการวิเคราะห์ความต้องการของตลาดเพื่อกำหนดเป้าหมายการผลิตให้สอดคล้องและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาด การเชื่อมโยงตลาด จับคู่ธุรกิจเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลผลิตมีตลาดรองรับที่แน่นอน มีการกำหนดพื้นที่แลูกใก้เหมาะสมกับสภาพดิน โดยใช่เครื่องมือ Agri Map รวมทั้งมีการตัดทำฐานข้อมูลเกษตรกรรายคนเพื่อให้ทราบพื้นที่ และปริมาณผลผลิต การใช้ปัจจัยการผลิตและต้นทุนการผลิต เพื่อเป็นข้อมูลให้กับสหกรณ์ในการวางแผนบริหารจัดการแปลงใหญ่
2.การจัดการพื้นที่เพาะปลูก โดยการจัดทำแผนที่ GPS รายแปลง เพื่อวางแผนระบบบริหารจัดการไปสู่การนำเทคโนโลยีการเกษตรแบบแม่นยำสูงมาใช้ และจัดทำปฏิทินระบบการปลูกพืช เพื่อใช้วิเคราะห์วางแผนการปลูก ตลอดจนการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะสามารถควบคุมและคาดการณ์ผลผลิตได้
3.การจัดการเพาะปลูก การจัดหาปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ โดยการสำรวจความต้องการของสมาชิกและรวมกันซื้อเพื่อบดต้นทุนการผลิต มีการบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนองค์ความรู้และวิทยาการเกษตรสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต
4.การจัดการผลผลิต โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในเรื่องของการเก็บรักษาผลผลิต รวมทั้งการบริหารจัดการเก็บผลผลิต ตั้งแต่การรวบรวมผลผลิตจนถึงการจำหน่าย
{gallery}05aug2562_1{/gallery}