24 กรกฎาคม 2562 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2562 ณ ห้องประชุม 226 อาคาร 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้แทนกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ กรมประมง กรมส่งเสริมการเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ ผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ผู้แทนสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้มีการรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2562
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2562 ณ ห้องประชุม 226 อาคาร 1 กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้แทนกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ กรมประมง กรมส่งเสริมการเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ ผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ผู้แทนสหกรณ์ทั้ง 7 ประเภท และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้มีการรายงานผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ 2562 ซึ่งมีทุนการดำเนินงาน จำนวน 6,055.05 ล้านบาท มีวงเงินให้กู้ 5,125 ล้านบาท และอนุมัติเงินกู้ไปแล้ว จำนวน 2,382.15 ล้านบาท พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “การวิเคราะห์สินเชื่อระดับต้น” และโครงการความร่วมมือทางการศึกษาเพื่อสานต่ออาชีพพระราชทาน ซึ่งทางคณะกรรมการ กพส. ได้อนุมัติเงินอุดหนุนจ่ายขาดสำหรับโครงการดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2562 จำนวน 3,360,000 บาท โดยทางกรมฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรสมาชิกสหกรณ์โคนมได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เพื่อกลับไปพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคนมของครอบครัวในอนาคต
นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาขออนุมัติปรับกรอบการบริหารเงินกู้ กพส. ประจำปีงบประมาณ 2562 สำหรับโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ และโครงการจัดหาแหล่งน้ำให้สมาชิกสหกรณ์ โดยให้สหกรณ์สามารถขอกู้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ได้สหกรณ์ละไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี เพื่อให้สหกรณ์นำไปเป็นทุนให้สมาชิกต่อ รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อใช้ลงทุนในการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรของตนเอง เช่น ขุดสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝน ขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อให้มีน้ำใช้สม่ำเสมอตลอดทั้งปีเพียงพอกับการทำการเกษตร หรือจัดหาอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ ให้มีศักยภาพเพียงพอสอดคล้องกับการทำเกษตร ลดความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำ และลดการพึ่งพาแหล่งน้ำตามธรรมชาติ หรือชลประทานเพียงแหล่งเดียว
{gallery}24july2562_1{/gallery}