4 มีนาคม 2562 นายประยูร อินสกุล และนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์. พร้อมด้วยสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศและข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมรับฟังนโยบายจากนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายประยูร อินสกุล และนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์. พร้อมด้วยสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศและข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมรับฟังนโยบายจากนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานด้านการเกษตรแก่หน่วยงานต่างๆภายใต้กระทรวงเกษตรฯ ผ่านการถ่ายทอดทางไกลโดยระบบ Conference ณ ห้องประชุมโรงแรมเดอะเกรซ อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายให้กับข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยจะเน้นให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1 การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง มีกรมชลประทานและกรมฝนหลวงเป็นเจ้าภาพหลัก และขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่และภาคเอกชน ร่วมกันคิดมาตรการเพื่อประหยัดน้ำในฤดูแล้งและทำฝายมีชีวิตเก็บชะลอน้ำไว้ใช้ในการเกษตร
2 มอบหมายเกษตรอำเภอร่วมประชุมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำข้อมูลสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทานไปชี้แจงว่ามีเพียงพอต่อการปลูกพืชหรือไม่ และขอความร่วมมือกำนันผู้ใหญ่บ้านรณรงค์ให้ชาวบ้านหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยในช่วงฤดูแล้ง
3 มอบหมายกรมวิชาการเกษตรจัดทำแผนการจำกัดการใช้สารเคทีที่ชัดเจนและทำได้จริงในระยะเวลา2ปี
4 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ปลูกข้าว โดยเฉพาะผลผลิตยางพารา จะสนับสนุนให้สหกรณ์ชาวสวนยางเป็นเสือตัวที่ 6 ส่งออกยางไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศ
6 จัดทำแผนการผลิตในรูปแบบแปลงใหญ่ในระบบโควต้าสินค้าเกษตร โดยเน้นสินค้าหลัก ข้าว ยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อยและปศุสัตว์โดยให้วิเคราะห์แนวโน้มตลาดในอนาคตเพื่อนำมาวางแผนการปลูกพืชแต่ละชนิดว่าควรปลูกในพื้นที่ไหน จำนวนพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งมอบหมายกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สปก.กรมพัฒนาที่ดิน และกรมชลประทาน ร่วมกันวางแผนการผลิตแปลงใหญ่ พื้นที่เกิน 1000 ไร่ขึ้นไป และใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาช่วยบริหารจัดการ ทั้งนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาบริการเกษตรกรและจัดหาปัจจัยการผลิตมาจำหน่าย เพื่อช่วยลดต้นทุน และประสานภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจสินค้าการเกษตรแต่ละชนิด ส่งนักวิชาการร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร
เบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการในพื้นที่สปก. ที่ดินของคทช. หรือที่ดินในนิคมสหกรณ์ จะนำร่องใน 6 ภูมิภาค ดำเนินการในรูปวิสาหกิจชุมชนเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อเป็นการปฏิรูปภาคการเกษตร และในบางพื้นที่อาจะนำรูปแบบการทำเกษตรผสมผสาน ทฤษฎีใหม่ เกษตร GAP และเกษตรอินทรีย์ เข้าไปส่งเสริมร่วมด้วย
{gallery}04mar2562{/gallery}