1 มีนาคม 2562 นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ติดตามผลสำเร็จการดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาในแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บ้านใหม่สามัคคี หมู่ที่ 5 ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ติดตามผลสำเร็จการดำเนินโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาในแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บ้านใหม่สามัคคี หมู่ที่ 5 ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเยี่ยมชมสาธิตการเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ด้วยเครื่องเก็บเกี่ยว และสาธิตการไถกลบตอซังข้าวโพด รวมทั้งเยี่ยมชมการซื้อขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ณ ลานรับซื้อผลผลิตการเกษตรของสหกรณ์การเกษตรศาลเจ้าไก่ต่อ จำกัด หมู่ที่ 6 ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตรศาลเจ้าไก่ต่อ จำกัด ได้เปิดเป็นจุดรับซื้อรวบรวมข้าวโพดตามโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา โดยมีเกษตรกรในอำเภอลาดยาว และอำเภอใกล้เคียงเข้าร่วมโครงการ จำนวน 280 รายและเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 98 ราย มีพื้นที่เพาะปลูกรวมกว่า 9,000 ไร่ ขณะนี้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วประมาณ 1,947 ตัน มูลค่า 13,786,524 บาท สหกรณ์รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด และส่งต่อให้บริษัทกรุงเทพโปรดิวซ์ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ในอำเภอโคกตูม จังหวัดลพบุรี รวมทั้งส่งต่อให้ผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการแปรสภาพอบลดความชื้นให้อยู่ที่ 14.5% และส่งจำหน่ายให้กับบริษัท CPF ซึ่งราคาขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 9.30 บาท อย่างไรก็ตาม เกษตรกรจะมีต้นทุนในการผลิตเฉลี่ย 5,660 บาท/ไร่ ซึ่งสหกรณ์จะรับซื้อข้าวโพดฝักสดจากสมาชิก ระดับความชื้น 27-30 % ราคา 6.70 - 6.80 บาทต่อ กก. โดยเกษตรกรจะมีรายได้จากการขายข้าวโพดเฉลี่ย 8,040 บาท/ไร่ และเมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรเฉลี่ยไร่ละ 2,380 บาท คาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ผลผลิตปริมาณ 10,700 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 75 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่วางไว้ทั้งเรื่องปริมาณผลผลิตต่อไร่ คุณภาพของข้าวโพดและราคาที่รับซื้อจากเกษตรกร ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชนและสหกรณ์ในพื้นที่ ในการร่วมกันปฎิรูปภาคการเกษตร ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ เพื่อช่วยดูแลและส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง
{gallery}01feb2562_2{/gallery}