4 ตุลาคม 2561 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมแนวทางการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังนา ผ่าน VDO Conference ครั้งที่ 1/2561 ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมแนวทางการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังนา ผ่าน VDO Conference ครั้งที่ 1/2561 ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุม และถ่ายทอดไปยังจังหวัดเป้าหมายทั้ง 33 จังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุมผ่าน VDO Conference
ในการประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาแนวทางการดำเนินงานและขับเคลื่อนโครงการฯ ร่วมกัน โดยการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานตามนโยบายการตลาดนำการผลิตของรัฐบาล มีหลักการดำเนินโครงการ คือ เกษตรกรต้องมีข้อมูลราคา เงื่อนไขการรับซื้อผลผลิต และปริมาณความต้องการผลผลิตของตลาดก่อนตัดสินใจปลูกพืชชนิดนั้น ซึ่งรัฐจัดให้มีมาตรการลดความเสี่ยงให้เกษตรกร ด้วยการหจัดหาตลาด และประสานกับภาคเอกชนเข้ามาเจรจาซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วยราคาที่เป็นธรรม มีการประกันรายได้ขั้นต่ำของเกษตรกร การรับรองราคารับซื้อผลผลิตของภาคเอกชน การทำประกันภัยพืชผล และการสนับสนุนความรู้และเงินทุนหรือปัจจัยในการผลิตแก่เกษตรกร รวมทั้งมีมาตรการจูงใจเกษตรกร โดยให้สินเชื่อค่าปัจจัยการผลิต และการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถขอกู้เงินจาก ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 0.01 ต่อปี วงเงินไร่ละ 2,000 บาท (ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย) และได้ประสานเอกชนให้มารับซื้อข้าวโพดอาหารสัตว์ตามคุณภาพในราคาไม่น้อยกว่าราคาขั้นต่ำที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนเบี้ยประกันภัย 65 บาทต่อไร่ เมื่อได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติจะได้รับค่าชดเชยไร่ละ 1,500 บาท และรัฐได้กำหนดนโยบายให้สินเชื่อสถาบันเกษตรกร เพื่อเสริมสภาพคล่องในการรวบรวมและรับซื้อผลผลิตข้าวโพดจากเกษตรกร โดยให้กู้ผ่าน ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี เป้าหมายพื้นที่ดำเนินการโครงการทั้งหมด 33 จังหวัดในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้ได้สำรวจพื้นที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 650,000 ไร่ ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการมากกว่า 71,000 คน การขับเคลื่อนโครงการฯ จะมีคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการฯ ในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ โดยมี 5 หน่วยงานหลัก คือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งการดำเนินโครงการฯ นี้เป็นการปฏิรูปการบริหารจัดการภาคเกษตรที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่งคั่งและยั่งยืนตลอดไป
{gallery}04oct2561{/gallery}