26 กันยายน 2561 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายชลธิศักดิ์ ชาวปากน้ำ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ประจำกรุงโตเกียว เข้าพบ Mr.Sudou Masatoshi ประธานกรรมการสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายชลธิศักดิ์ ชาวปากน้ำ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ประจำกรุงโตเกียว เข้าพบ Mr.Sudou Masatoshi ประธานกรรมการสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi ซึ่งเป็นสหกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว มีสมาชิกประมาณ 28,588 คน แบ่งเป็นสมาชิกหลัก 3,220 คน ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ผลิตพืชผัก ผลไม้และดอกไม้ และสมาชิกสมทบ 25,338 ราย ซึ่งเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตดำเนินงานของสหกรณ์ 5 เมืองหลักในกรุงโตเกียว และใช้บริการกับสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi เกิดจากการควบรวมสหกรณ์ 5 แห่งเข้าด้วยกัน เมื่อ 20 ปีก่อน เนื่องจากในขณะนั้นตัวแทนสหกรณ์ต่าง ๆ ได้หารือร่วมกันเมื่อเกิดวิกฤติช่วงฟองสบู่แตก และเห็นว่าควรมีการควบรวมสหกรณ์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่เข้าด้วยกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานของสหกรณ์ โดยมีการประชุมหารือกันและตั้งหน่วยงานเพื่อทำการวิจัยเรื่องการควบรวมสหกรณ์ เพื่อศึกษาถึงผลดีผลเสียและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับสมาชิก รวมถึงกำหนดแผนการดำเนินงานและโครงสร้างการบริหารงานของสหกรณ์ภายหลังจากการควบรวมแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 7 ปีจึงจะดำเนินการควบรวมสหกรณ์เข้าด้วยกันจนสำเร็จ ส่งผลทำให้การดำเนินงานของสหกรณ์มีทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น สามารถขยายพื้นที่ให้บริการและจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้มีฐานะมั่นคง และมีประชาชนสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมทบเพื่อใช้บริการจากสหกรณ์เพิ่มขึ้นทุกปี
สหกรณ์ JA Tokyo-Musashi มีนโยบายหลัก 3 ด้าน คือการช่วยสนับสนุนช่องทางจำหน่ายผลผลิตของสมาชิก การเพิ่มผลผลิตการเกษตรในพื้นที่ดำเนินงานของสหกรณ์ และการเผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ สู่ชุมชน ซึ่งสหกรณ์แห่งนี้จะเน้นจำหน่ายผลผลิตการเกษตรและอาหาร และพยายามจะพัฒนาองค์กรให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของสมาชิก ด้วยการเปิดร้าน Farmer Market ให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกคัดเลือกผลผลิตที่มีคุณภาพจากสวนมาวางจำหน่าย การจำหน่ายสินค้าแปรรูป โดยนำผลผลิตของสมาชิกส่งเข้าโรงงานแปรรูปอาหาร และนำมาจำหน่ายภายใต้แบรนด์สินค้าของสหกรณ์ “มูจัง คิชเช่น” นอกจากนี้ สหกรณ์ยังมีการบริการที่หลากหลาย นอกจากร้าน Farmer Market แล้ว ยังมีสถาบันการเงินของสหกรณ์ รับฝากและให้เงินกู้แก่สมาชิก มีศูนย์ขายตรงสินค้าสหกรณ์ ศูนย์บริการเครื่องมือการเกษตร ศูนย์ให้บริการและคำแนะนำแก่สมาชิกเกี่ยวกับการดูแลและรักษาพื้นที่ทำการเกษตร ศูนย์จัดงานแต่งงานและงานศพ ศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยง และการสอนทำอาหารให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน Farmer Market ของสหกรณ์ ซึ่งผลกำไรแต่ละปี สหกรณ์จะจัดสรรไว้ในการส่งเสริมอาชีพการเกษตรให้กับสมาชิก เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรในเมืองโตเกียวมีจำนวนลดลง และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สหกรณ์จึงต้องการสนับสนุนให้สมาชิกและครอบครัวยังยึดอาชีพทำการเกษตรนี้ไว้ และกำไรที่เหลือนำมาปันผลคืนสมาชิกและเก็บไว้เป็นเงินสะสมของสหกรณ์ด้วย สหกรณ์ JA Tokyo-Musashi ให้ความสำคัญกับการให้บริการแก่สมาชิกและลูกค้าของสหกรณ์ รวมถึงดูแลเรื่องรายได้ และชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิก ซึ่งสมาชิกสหกรณ์ที่นำผลผลิตมาวางขายที่สหกรณ์ มีรายได้เฉลี่ย 4-5 ล้านเยนต่อปี สหกรณ์ JA Tokyo-Musashi จึงเป็นสหกรณ์ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการควบรวมกิจการสหกรณ์หลายแห่งเข้าด้วยกัน และสามารถดำเนินกิจการเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับสมาชิกที่เป็นเกษตรกรและสมาชิกสมทบที่มาใช้บริการกับสหกรณ์ได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์จะนำความรู้และประสบการณ์จากสหกรณ์ JA Tokyo-Musashi มาปรับใช้ในการพัฒนาการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรในประเทศไทยต่อไป
{gallery}26stb2561_1{/gallery}