รองนายกฯ ธรรมนัส เดินหน้ามอบนโยบายขบวนการสหกรณ์ทั่วประเทศ ยกเครื่องสหกรณ์ภาคการเกษตร สู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการมอบนโยบายขับเคลื่อนสหกรณ์ภาคการเกษตรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ สหกรณ์จังหวัด ผู้บริหารสหกรณ์ภาคการเกษตร และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ รวมจำนวน 1,000 คน เข้าร่วมรับฟังนโยบาย ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี อีกทั้งได้ถ่ายทอดสัญญาณสด ผ่าน Facebook Live กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ทั่วประเทศได้รับชมอย่างพร้อมเพรียงกัน
โอกาสนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ปัญหาของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่คือการมีรายได้ไม่มั่นคง ต้นทุนการผลิตสูง
ขาดอำนาจต่อรองในตลาด และไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมได้อย่างทั่วถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร ผ่านการขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูง เราได้วางนโยบายชัดเจนที่จะ “ยกระดับศักยภาพเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็ง” โดยเฉพาะการส่งเสริมให้สหกรณ์ภาคการเกษตรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร
ที่สามารถดูแลสมาชิกได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มต้นจากการจัดหาปัจจัยการผลิต การให้บริการเครื่องจักรกล การรวบรวมและแปรรูปผลผลิต การบริหารจัดการตลาด ไปจนถึงการให้บริการสินเชื่อและสวัสดิการสมาชิก “เพราะว่าสหกรณ์เป็นกลไกสำคัญที่สุดในการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจของชุมชนที่เกิดจากการรวมพลังของสมาชิกเอง ถ้าสหกรณ์แข็งแรง เกษตรกรก็แข็งแรง และเศรษฐกิจของประเทศก็จะแข็งแรงตามไปด้วย”
เพื่อให้ “สหกรณ์” สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ รมว.ธรรมนัส ได้เน้นย้ำนโยบายแก่ผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ทุกระดับ สหกรณ์จังหวัดทุกพื้นที่ ส่งต่อไปถึงผู้บริหารสหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น
4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
ประเด็นที่ 1 ธรรมาภิบาลในสหกรณ์ ผู้บริหารสหกรณ์ต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และมีระบบบัญชีที่เข้มแข็ง สหกรณ์ต้องมีผู้นำที่มีจิตอาสา ซื่อสัตย์ และยึดประโยชน์ของสมาชิกเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือจากสมาชิก
ประเด็นที่ 2 การบริหารเชิงธุรกิจและการตลาดแบบมืออาชีพ สหกรณ์ต้องก้าวพ้นจากการเป็นเพียงองค์กร
รับฝาก - กู้ยืม ต้องกลับมาดูแลการผลิตและผลผลิตของสมาชิก เป็นองค์กรธุรกิจที่เชื่อมโยงตลาด สร้างมูลค่าเพิ่ม และให้บริการทางการเกษตรอย่างครบวงจร สอดคล้องกับนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประเด็นที่ 3 การพัฒนาและต่อยอดด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบฐานข้อมูลสมาชิก การบริหารสต็อกสินค้า การเชื่อมโยงตลาดออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและมาตรฐานคุณภาพ เพื่อให้สหกรณ์สามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจใหม่
ประเด็นที่ 4 การสนับสนุนจากภาครัฐ รัฐบาลพร้อมผลักดันโครงการและงบประมาณต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือสหกรณ์ ทั้งด้านเงินทุนผ่านกองทุนพัฒนาสหกรณ์ การส่งเสริมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเกษตร เช่น ศูนย์รวบรวมผลผลิต ห้องเย็น โรงคัดบรรจุ รวมถึงการสนับสนุนการแปรรูปและสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรในชุมชน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง
ข่าวสื่อออนไลน์
