เรื่อง กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงกรณีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลฯ ไม่ได้รับเงินสวัสดิการ
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า “สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลฯ โวยไม่ได้รับเงิน 5 โครงการสวัสดิการหลัง สหกรณ์จังหวัดสั่งหยุดจ่าย”
จากกรณีดังกล่าว สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ตรวจสอบพบว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด จัดสวัสดิการหรือตั้งกองทุนสวัสดิการต่าง ๆ โดยมีสวัสดิการ 5 สวัสดิการ ได้แก่ (1) สวัสดิการสงเคราะห์สมาชิก และครอบครัวสมาชิก โครงการ 1 หรือ ส.ค.ส. 1 (2) โครงการสวัสดิการ ส.ค.ส. 2 (3) โครงการสวัสดิการ ก.ส.ค. (4) โครงการสวัสดิการ ก.น.ส. และ (5) โครงการสวัสดิการ ร่มเกล้าไทรทอง ซึ่งหลักเกณฑ์การจ่ายเงินแก่สมาชิกที่เข้าร่วม โครงการสวัสดิการ ทั้ง 5 โครงการนั้น มีลักษณะเข้าข่ายธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งสหกรณ์ฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ ลักษณะเช่นนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535
สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์ จึงมีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (อบ) 22/2566 สั่ง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 สั่งให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ชุดปัจจุบัน ระงับการจ่ายเงินสวัสดิการโครงการทั้ง 5 ไว้ก่อน เพื่อให้คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 ซึ่งเป็นหน่วยงานตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 วินิจฉัยว่าสวัสดิการทั้ง 5 โครงการดังกล่าวเข้าลักษณะธุรกิจประกันชีวิตหรือไม่ และการดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวจะผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เพื่อจะได้นำแนวทางตามข้อหารือไปแนะนำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ถือปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ได้ขอหารือแนวทางการจ่ายคืนเงินแก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดฯ ได้มีหนังสือตอบข้อหารือแล้วว่า หากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 มีคำวินิจฉัยว่าสหกรณ์ฯ ไม่สามารถดำเนินการตามสวัสดิการได้ สหกรณ์ฯ สามารถถอนเงินสวัสดิการของสมาชิกที่โอนเข้าเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ได้เป็นไปตามแนวทางที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เคยให้แนวทางการจ่ายคืนเงินที่รับบริจาคเข้ากองทุนสำรองของสหกรณ์ว่าการนำเงินสมทบของสมาชิกเข้ากองทุนสำรอง ไม่ถือเป็นเงินอุดหนุน และไม่เป็นเงินที่มาจากการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี สหกรณ์จึงสามารถถอนเงินของผู้เข้าร่วมโครงการจากทุนสำรองคืนให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่ต้องห้ามตามมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับวิธีปฏิบัติทางบัญชีสหกรณ์ต้องโอนกลับบัญชีทุนสำรองกับบัญชี...(ที่รับเงินบริจาคมาครั้งแรก) ซึ่งสหกรณ์ได้บันทึกไว้เมื่อโอนทุนดังกล่าวเข้าทุนสำรองของสหกรณ์ และเมื่อสหกรณ์จ่ายเงินคืนให้กับสมาชิกให้บันทึกลดยอดบัญชี...(ที่รับเงินบริจาคมาครั้งแรก) และให้สหกรณ์เปิดเผยข้อมูลไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ฯ ยังไม่ได้มีการจ่ายคืนเงินบริจาคแก่สมาชิก เนื่องจากรอคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 มีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญของสหกรณ์ออม ทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ณ ห้องประชุมสหกรณ์ฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลในการมีคำสั่งให้สหกรณ์ฯ ระงับ โครงการดังกล่าวให้แก่ผู้แทนสมาชิกได้รับทราบ เพื่อให้ผู้แทนสมาชิกได้เข้าใจ และนำข้อมูลไปถ่ายทอดทำความเข้าใจแก่ สมาชิกในสังกัดต่อไป
หลังจากนี้ สหกรณ์ฯ อาจจะจัดให้มีสวัสดิการแก่สมาชิกทุกคนอย่างทั่วถึง โดยต้องพิจารณาจากฐานะของ สหกรณ์ฯ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องไม่ขัดต่อระเบียบ ข้อบังคับของสหกรณ์ และกฎหมายอื่นด้วย