กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดโครงการ “ปันน้ำใจสู่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ชายแดน” มอบอุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์กีฬา สิ่งของ และทุนการศึกษา โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2566 ณ โรงเรียนราชพิพัฒนา หมู่ที่ 6 บ้านปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส และขอเชิญผู้มีจิตกุศลร่วมสมทบทุน เพื่อจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน เป็นทุนการศึกษาและทุนเพื่อกิจการของโรงเรียน สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขานราธิวาส เลขที่บัญชี 905-3-65740-1 ชื่อบัญชี โครงการปันน้ำใจสู่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ชายแดน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2566
กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ร่วมมือกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปัตตานี และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดยะลา พร้อมขบวนการเครือข่ายสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมกันจัดทำโครงการ “ปันน้ำใจสู่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ชายแดน” ซึ่งมีกำหนดจัด 3 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยในครั้งแรกได้ดำเนินการจัดกิจกรรมแล้วที่โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านมลายู) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และในครั้งนี้ มีกำหนดจัดกิจกรรมขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2566 ณ โรงเรียนราชพัฒนา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตนิคมสหกรณ์ปิเหล็ง หมู่ที่ 6 บ้านปิเหล็ง ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส โดยเป็นการจัดกิจกรรมสร้างความอบอุ่นให้กับน้อง ๆ นักเรียน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ให้ได้รับความสุขและเกิดการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ มีการมอบอุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์กีฬา เงินทุนการศึกษา และทุนในการบูรณะซ่อมแซมอาคารเรียนให้นักเรียนต่อไป
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ “ปันน้ำใจสู่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ชายแดน” นั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ภาพลักษณ์ของขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ให้องค์กรต่างๆ และชุมชนในพื้นที่ได้ทราบถึงบทบาทของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการดำเนินกิจกรรมภายใต้หลักการสหกรณ์ “เอื้ออาทรต่อสังคมและชุมชน” ในการให้การแบ่งปัน การมีเมตตาต่อผู้อื่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างจริยธรรมในใจที่ดี รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กในพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับความรัก ความอบอุ่น ความเอื้ออาทร และเติมเต็มทางด้านการศึกษา โดยการสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาที่มีความจำเป็นต่อการเรียนการสอน เพื่อที่จะมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย และเพียงพอต่อการพัฒนาทักษะและการศึกษา ให้แก่เด็กและสถานศึกษาในเขตพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง สถานศึกษา รวมทั้งเกิดแรงกระตุ้นให้ชุมชน และองค์กรต่าง ๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต