1 พฤษภาคม 2567 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบปะพี่น้องกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมงาน “52 ปี วันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร” เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 72 พรรษา โดยมี นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการกอง/สำนัก ผู้อำนวยการกลุ่ม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรสมาชิกกลุ่มเกษตรกร ร่วมรับฟัง ณ สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ นำโดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรในทุกมิติ และในวันนี้ที่เป็นวันครบรอบ 52 ปี การก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร ดีใจที่ได้มาพบเพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกร และกระทรวงเกษตรฯ มีความพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกร ยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร” และนโยบายด้านต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร โดยสั่งการให้กรมชลประทานเตรียมเสริมน้ำในพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องเสริมน้ำ สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดินให้เตรียมขุดบ่อเพื่อการเกษตร สำรวจพื้นที่ของเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนเพื่อบรรเทาปัญหา
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน กระทรวงเกษตรฯ โดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ทำงานภายใต้ขีดจำกัด เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ในการบริหาร และข้อจำกัดอีกมากมาย แต่จะเห็นได้ว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอยากจะยกระดับราคาสินค้าเกษตรทุกชนิด เพื่อจะเดินไปข้างหน้ากับพี่น้องเกษตรกร ตลอดจนการมอบหมายงานต่าง ๆ ให้กับกรมต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เข้ามาทำงานร่วมกัน ในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ต้องดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมทำงานเคียงข้างกับผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และพี่น้องเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และจะต้องได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวแสดงความยินดี เนื่องในวันครบรอบ 52 ปี วันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร และเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาพบปะกับพี่น้องเกษตรกร และทราบว่ากลุ่มเกษตรกรมีการส่งเสริมความเข้มแข็ง ส่งเสริมให้มีมาตรฐาน ส่งเสริมธรรมาภิบาลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีคุณภาพ และบางกลุ่มสามารถก้าวสู่การเป็นกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้วย และการที่กลุ่มเกษตรกรจะก้าวต่อไปพร้อมกับการผลักดันนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของกระทรวงเกษตรฯ ย่อมเป็นไปได้ไม่ยาก เชื่อว่าพี่น้องเกษตรกรเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีความอดทน หากกลุ่มเกษตรกรร่วมมือร่วมใจ อีกทั้งมีหน่วยงานของรัฐบาล เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ที่มีนโยบายในการส่งเสริมสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง จะทำให้มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเกษตรกร จะมีการกำหนดรูปแบบและแนวทางการสร้างคุณภาพเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตรนำไปสู่เกษตรมูลค่าสูง การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำมาช่วยแก้ไขปัญหากับการเกษตรอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวนโยบายที่กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ยกระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจนการกระจายสินค้าทางการเกษตรรวมถึงการพัฒนาตลาดออนไลน์และเกษตรกรรุ่นใหม่ การสร้างธุรกิจใหม่ ๆ จากการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาได้ติดต่อกับรัฐบาลของจีน เวียดนาม ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทำข้อตกลงในการเปิดโอกาสให้ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ ไปยังประเทศมหาอำนาจที่มีความต้องการสินค้าเกษตรของประเทศไทยได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายของกระทรวงเกษตรฯ ในการเพิ่มรายได้ 3 เท่าภายในปี 2570 เชื่อว่าความร่วมมือของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ตลอดจนพี่น้องเกษตรกรในประเทศไทย เราจะไปให้ถึงความสำเร็จด้วยกัน
ขอชื่นชมความสำเร็จของกลุ่มเกษตรกร และจะร่วมกันขับเคลื่อนสานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล นโยบายสำคัญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในการผลักดันและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกรในการเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป